ถ้าหากผู้ใดมีโอกาสได้ดูละครเรื่อง บุพเพสันนิวาส คงจะทราบเรื่องของ
ทองกีบม้า ภรรยาของ เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือ คอนสแตนติน ฟอลคอน
ที่หลังจากฟอลคอนตาย ชีวิตของทองกีบม้าพลิกพลันเป็นอย่างมาก
เธอถูกส่งไปอยู่ในคุก ซึ่งก็ได้เขียนจดหมายไปถึงบาทหลวงฝรั่งเศส ที่อยู่ ณ
ประเทศจีน ตามมาดูเพิ่มเติมกันดีกว่าว่าจะเป็นอย่างไรกันบ้าง
จดหมายลงวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1706 (พ.ศ. 2249) ตรงกับรัชกาลของขุนหลวงสรศักดิ์ หรือพระเจ้าเสือ เป็นจดหมายภาษาละตินที่ลงนามโดย D. Guimar de Pina นั้นคือชื่อของมารี กีมาร์ หรือท้าวทองกีบม้าผู้เป็นภรรยาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เขียนถึงบาทหลวงฝรั่งเศสที่อยู่ ณ ประเทศจีนให้ได้ช่วยกราบบังคมทูลพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ว่า นับตั้งแต่เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ถึงแก่กรรมแล้ว ชีวิตของนางมีแต่ความทุกข์ยาก ไร้เกียรติและยากจนข้นแค้น จึงขอให้พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ มีพระราชโองการให้บริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศสคืนเงินค่าหุ้นของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ที่ได้ลงทุนไว้กับบริษัทให้กับตัวนาง
ภาพสำเนาโดย อาจารย์ภูธร ภูมะธน (“ภาพจาก หนังสือการเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของ ท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ” สำนักพิมพ์มติชน)
ภาพสำเนาโดย อาจารย์ภูธร ภูมะธน (“ภาพจาก หนังสือการเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของ ท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ” สำนักพิมพ์มติชน)
จดหมายลงวันที่ 20 มิถุนายน ค.ศ. 1706 (พ.ศ. 2249) ตรงกับรัชกาลของขุนหลวงสรศักดิ์ หรือพระเจ้าเสือ เป็นจดหมายภาษาละตินที่ลงนามโดย D. Guimar de Pina นั้นคือชื่อของมารี กีมาร์ หรือท้าวทองกีบม้าผู้เป็นภรรยาของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ เขียนถึงบาทหลวงฝรั่งเศสที่อยู่ ณ ประเทศจีนให้ได้ช่วยกราบบังคมทูลพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 ว่า นับตั้งแต่เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ถึงแก่กรรมแล้ว ชีวิตของนางมีแต่ความทุกข์ยาก ไร้เกียรติและยากจนข้นแค้น จึงขอให้พระเจ้าหลุยส์ที่ ๑๔ มีพระราชโองการให้บริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศสคืนเงินค่าหุ้นของเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ที่ได้ลงทุนไว้กับบริษัทให้กับตัวนาง
ภาพสำเนาโดย อาจารย์ภูธร ภูมะธน (“ภาพจาก หนังสือการเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของ ท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ” สำนักพิมพ์มติชน)
ภาพสำเนาโดย อาจารย์ภูธร ภูมะธน (“ภาพจาก หนังสือการเมืองในประวัติศาสตร์ “ขนมหวาน” ของ ท้าวทองกีบม้า “มาดามฟอลคอน” “ขนมไทย” หรือ “ขนมเทศ” สำนักพิมพ์มติชน)