พัดลมที่บ้ า น ที่ในบางทีนั้นเวลาเราเปิดใบพัด พัดลมก็หมุนได้ไม่แรงไม่เร็ว และไม่มีความเย็นของลมออกมาเลย บางบ้ า นก็เพิ่งซื้อมาใหม่ๆก็เกิดปัญหานี้ซะแล้ว หรือใช้ไปนานวัน ก็เป็นอยู่บ่อยๆ ทำให้ต้องส่งซ่อมเสียเงินและเสียเวลา เอากลับมาใช้ก็ไม่แรงเหมือนเดิม
รู้หรือไม่ว่าพัดลมที่หมุนไม่เร็วและไม่แรงนั้น เราสามารถซ่อมเองได้ด้วย การเปลี่ยนอุปกรณ์ด้านใน เพื่อที่จะช่วยให้ใบพัดนั้นทำงานได้เร็วและได้แรงได้เหมือนเดิม ไม่ว่าจะเป็นผู้ชายและผู้หญิงก็สามารถซ่อมเองได้ที่บ้ า นไม่ต้องยกไปร้านช่างให้เสียเงินและเสียเวลาด้วย ขั้นตอน ในการซ่อมก็ไม่ได้ยุ่งยากมา ดู กันก่อนว่าสาเหตุที่เป็นนี้มาจากอะไร
พัดลมที่ไม่หมุนนั้นมักจะมีสาเหตุที่มาจากตัว Capacitor ทำงานร่วมกับตัวมอเตอร์ของพัดลมเสีย Capacitor หรือที่บางคนนั้นเขาจะเรียกกันว่าตัว C หรือจะเรียกว่าเป็นตัวแคป
พัดลมที่หมุนช้าหรือไม่หมุนเลย อาจเกิดมาจากตัวCapacitor ที่เสีย หรือในบางครั้งอาจจะต้องมีการช่วยหมุนมือเพื่อเป็นตัวช่วยก่อน ถึงจะทำงาน หรือทำงานไปสักพักก็จะค่อยๆหยุดหมุนไปเอง เราสามารถที่จะเปลี่ยนตัวCapacitorได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเราก็ควรที่จะต้องเช็ค กันดู ก่อน
ว่าสำหรับตัวแกนหมุนนั้นไม่ได้เปิดมากอันนั้นจะเกิดจากไม่ค่อยได้นำมาเช็ดล้างทำความสะอาด นำมาปัดเป่าฝุ่นที่ติดอยู่ในตัวบริเวณของมอเตอร์ เราควรที่จะถอดเช็ดทำความสะอาดเป็นประจำ 1 ถึง 2 เดือน สัก 1 ครั้ง หากเราได้มีการเปิดใช้งานเป็นประจำทุกวัน ควรถอดมาปัดฝุ่นที่ติด อยู่
เครื่องมือที่ใช้ซ่อมพัดลม
1 ไ ข ค ว งแ ฉ ก
2 คีมตัดหรือ Cutter ก็ได้
3 หัวแร้ง
4 ตะกั่ว บั ด กลี
5 ที่ขาดไม่ได้เลยก็คือตัว Capacitor
6 ส่วน Meter วัดไฟจะมีหรือไม่มีก็ได้ ไม่ค่อยจำเป็นผมเอามาเช็ค เพื่อให้เห็นว่าตัวที่เสียเกิดจากตัว Capacitor
ตัวCapacitor มีราคา 20 บาท หาซื้อได้ตามร้านซ่อมเครื่องไฟฟ้าทั่วไป ร้านข า ยอะไหล่เครื่องใช้ไฟฟ้า มักจะมีข า ยอยู่ หาซื้อได้ง่ายและมีราคาที่ไม่แรง หากไม่แน่ใจก็ให้ถอดตัวเดิมออกแล้วเอาไปให้คนข า ย ดูเพื่อที่จะให้ชัวร์
ให้บอกคนขายไปว่ามาซื้อตัว Capacitor ของพัดลม ซื้อเสร็จแล้วก็จะเริ่มขั้นตอนของการซ่อมกันเลย โดยก่อนอื่นเราจะต้องทำการถอดปลั๊กไฟของพัดลมออกให้เรียบร้อย เพื่อความปลอด ภัยของตัวคุณเอง พัดลมในหลายยี่ห้อนั้นตัวCapacitor มักจะอยู่ติด กับตัวมอเตอ ร์แต่ในบางรุ่นนั้นก็จะอยู่ที่ปุ่มกด speed
จะมีน๊อต 2 ตัว ต้องถอดน๊อตตัวบนก่อน จากนั้นก็ถอดตัวที่ท้าย
จากนั้นก็จะได้หน้าตาเป็นแบบนี้เองสำหรับตัว Capacitor ก็คือจะเป็นตัวที่ลูกศรชี้เอาไว้ ขันน็อตตัดสายออกมาได้เลยไม่มีขั้วซึ่งในตอนต่อกับยังไงก็ได้เอามาตรวจวัดดูค่าที่ได้ของตัวนี้นั้นก็จะอยู่ที่ 0.444 uF ซึ่งค่าปกติจะเป็น 1.5 uF เสียแน่นอน
ซึ่งถ้าหากว่าตัวเลขค่าน้อยกว่านี้ อาจจะทำให้พัดลมไม่หมุนเลยก็ได้
จริงๆ ขั้นตอนนี้ใครไม่มี หัวแร้ง ตะกั่ว ก็สามารถใช้วิธีการพันสายไฟได้ เพียง แต่ต้องพันเข้ากันให้ได้แน่นที่สุด และหลังจากนั้นต้อง พันด้วยเทปพันสายไฟ อันนี้จำเป็นมากๆ ไม่งั้นไฟช๊ อ ตเอาได้
พอเสร็จแล้วก็ให้จัดเก็บในตำแหน่งเดิมได้เลย คันตัวน๊อตยึด Capacitor จากนั้นให้ใส่ฝานำมาครอบคืนในตำแหน่งเดิม เท่านี้ก็เสร็จลองเปิดดูพัดลมก็จะใช้งานได้เหมือนเดิม
เท่านี้เราก็จะซ่อมพัดลมเองได้ พัดลมที่เปิดใช้งานนั้นก็จะใช้งานได้ปกติ ให้ความเย็นให้ความแรงได้ปกติเลย หากเรายกพัดลมไปซ่อมที่ร้าน อย่างต่ำๆก็เสีย 200-300 บ า ท เราซ่อมเองไม่ต้องเสียเงินมากขนาดนั้น
ขอบคุณข้อมูลจาก : Wichan Poonsawat