เรื่องราวความรักของครอบครัวที่อยู่ด้วยกันมานาน และเมื่อเวลาผ่านไปความรักที่เคยมีก็ค่อยๆลดลงไป บางครอบครัวกลายเป็นความผูกพันธ์และความเข้าใจ แต่สำหรับบางคนการอยู่ด้วยกันมานานอาจกลายเป็นความเคยชินและมองข้ามความสำคัญซึ่งกันและกันไปได้
วันนี้เรามีเรื่องเล่าของคู่รักคู่หนึ่งที่อยู่กันมานาน โดยเริ่มแรกนั้นสามีทำงานเป็นช่างปูนในชนบท เมื่อทำงานได้ระยะหนึ่งก็ได้เลื่อนขั้นขึ้นมาเป็นหัวหน้าช่างปูน หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้ก่อตั้งเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้างขึ้นมาเป็นของตัวเอง และต่อมาบริษัทก่อสร้างของเขาก็ได้กลายเป็นบริษัทที่มีชื่อเสียงใหญ่โตพอสมควร ได้พบปะสังสรรกับคนและสังคมมากขึ้นและสิ่งนี้คือจุดเริ่มต้นที่กลายเป็นจุดเปลี่ยน และเกิดสิ่งยั่วยุในใจของเขา
เมื่อกลับมาบ้านเขามองรูปร่างและลักษณะภรรยาของเขาก็รู้สึกเหนื่อยหน่าย คิดถึงแต่อดีตในช่วงชีวิตที่ลำบากและยากจน และคิดเอาว่าชีวิตคู่ของทั้งสองควรจะหยุดลงได้แล้ว เขาจึงฝากเงินในบัญชีให้กับภรรยาของเขา 100 ล้านหยวน ซึ่งเขาคิดว่าเพียงพอต่อการซื้อบ้านใหม่ในเมือง เขาได้วางแผนชีวิตให้กับของภรรยาไว้ เพราะหากเขาไม่ทำแบบนี้แล้วเขาจะรู้สึกแย่ และรู้สึกว่าเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบ และไม่ต้องการให้ภรรยาต้องลำบากเมื่อเขาขอแยกทางกัน
สุดท้ายเขาก็ได้มาพูดคุยกับภรรยา เธอยอมรับและรับฟังข้อเสนอด้วยแววตาที่สงบและถ่อมตน เมื่อถึงกำหนดเวลาที่ต้องย้ายออก ในช่วงบ่ายโมงเขาบอกภรรยาว่าจะกลับมาช่วยภรรยาย้ายของ และเป็นการจบในการใช้ชีวิตที่อยู่ร่วมกันมากว่า 20 ปี
ตลอดช่วงเช้าเขาทำงานด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น รีบกลับมาบ้านก็พบว่าภรรยาไม่อยู่ที่บ้าน แล้วพบเพียงแต่กุญแจบ้านพร้อมกับสมุดบัญชีที่เขาฝากเงินให้จำนวน100 ล้านหยวน วางไว้พร้อมกับจดหมายที่เขียนข้อความไว้ว่า
ฉันไปแล้วนะ ฉันจะกลับไปอยู่บ้านกับแม่ ผ้าปูเตียงซักเสร็จและตากแห้งหมดแล้ว พับเก็บไว้ให้ที่ห้องแต่งตัวมุมขวาของตู้ เวลาอากาศหนาวอย่าลืมเอาออกมาใช้ ส่วนเสื้อเชิ๊ตแขวนอยู่ในตู้เสื้อผ้า ถุงเท้า และเข็มขัดเก็บไว้ชั้นล่างของตู้เสื้อผ้านะ หลังจากที่ฉันไปแล้วอย่าลืมกินยากระเพาะคุณไม่ค่อยดี ฉันฝากให้เพื่อนซื้อยาไว้ให้ คุณน่าจะพอกินถึงครึ่งปี และยังมีอีกเรื่อง คุณชอบลืมกุญแจบ้านเป็นประจำ ฉันเลยฝากกุญแจสำรองไว้ที่ป้อมยาม ถ้าลืมก็ไปเอาที่ป้อมยามได้ ในตอนเช้าก่อนออกไปทำงานอย่าลืมปิดหน้าต่าง เพราะถ้าฝนตกจะสาดเข้าบ้านทำให้พื้นบ้านเปียกและเสียได้ ฉันทำเกี๊ยวที่คุณชอบไว้ให้อยู่ในห้องครัวกลับมาก็ต้มกินเองได้นะ
ลายมือของเธอในจดหมายเขียนได้แย่มาก แต่ตัวหนังสือทุกตัวแสดงถึงความจริงใจสุดซึ้ง และทำให้เขารู้สึกเจ็บตรงหัวใจ เขานั่งมองเกี๊ยวที่เธอห่อเก็บไว้ให้เขา ทำให้นึกถึงเมื่อ 20 ปีก่อน นึกถึงช่างปูนจนๆคนหนึ่ง นึกถึงเสียงสับผักที่เตรียมห่อเกี๊ยวให้เขา ทำให้เขามีความสุขและสัญญากับตัวเองไว้ว่าฉันจะต้องทำให้ผู้หญิงคนนี้มีความสุขที่สุด
เมื่อคิดได้เขาก็รีบขับรถออกไปตามหาภรรยาทันที และได้เจอเธอรอรถอยู่ที่สถานีรถไฟ ร่างกายเขาเต็มไปด้วยเหงื่อและ พูดออกไปว่า คุณจะไปไหน ผมเพิ่งเลิกงาน เหนื่อยมาทั้งวัน กลับบ้านยังไม่ได้กินข้าว หน้าที่ภรรยาเขาทำกันแบบนี้หรือไง ตามผมกลับบ้านเดี๋ยวนี้ เมื่อเธอได้ฟังก็น้ำตาคลอ ค่อยๆลุกขึ้นและเดินตามหลังเขาไป จากรอยน้ำตากลายเป็นรอยยิ้ม แต่เธอไม่รู้ว่าผู้ชายที่เดินอยู่ด้านหน้าตอนนั้นร้องไห้หนักมาก
ขณะที่เขาขับรถตามหาเธออยู่นั้นเขากลัวว่าจะหาเธอไม่เจอ กลัวว่าจะต้องสูญเสียเธอไปตลอดชีวิต เขาได้แต่ด่าและโทษตัวเองว่าทำไมถึงคิดไม่ได้ ทำไมถึงทิ้งผู้หญิงที่เขารักมาก ผู้หญิงที่อยู่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมา 20 กว่าปี ที่กลายเป็นอีกส่วนหนึ่งของชีวิตที่ขาดไม่ได้ ความสุขที่แท้จริงไม่ใช่จำนวนเงินในสมุดบัญชี แต่มันคือรอยยิ้มของคนที่รักต่างหาก
เมื่อคุณได้มีความรักและพบกับคนที่พร้อมจะอยู่เคียงข้างคุณไม่ว่าจะเวลาสุขหรือเศร้าแล้ว คุณก็ควรที่จะดูแลใส่ใจให้ความสำคัญกับเขาคนนั้นมากๆ สิ่งใหม่ๆอาจทำให้คุณรู้สึกตื่นเต้นแต่สิ่งที่จะทำให้คุณสงบและสบายใจได้ก็คือคนที่พร้อมจะอยู่ข้างคุณทุกเวลานั่นเอง
เรียบเรียงโดย : Postsod
ขอขอบคุณ : ได้คิดก็คิดได้, เพจคำคม, ภาพประกอบ