หนุ่มออฟฟิศ หนัก 120 กก. เผยเคล็ดลับ 5เดือน ลง 40กิโลกรัม ทำง่ายไม่โยโย่!

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Narongsak Ruangkeaw โพสต์เรื่องราวความพยายามในชีวิตที่ต้องการลดน้ำหนัก เผยแพร่ในกลุ่ม วิ่งไหนดี : พูดคุยภาษาวิ่งเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก พร้อมกับโพสต์ภาพให้เห็นถึงความแตกต่างหลังจากเปลี่ยนตัวเอง ความว่า

สวัสดีครับ เมื่อช่วงเที่ยง ผมได้โพสต์ รูป After-Before ที่ใช้เวลา 5 เดือน 24 วัน สามารถลดได้ 40 กิโลกรัม ไม่คิดว่าจะได้รับความสนใจ มากขนาดนี้ อยากทราบ How to ถามมาในคอมเมนท์ แต่ไม่สามารถ ตอบได้หมด เลยขออธิบาย ในโพสต์นี้ครับ โดยวิธีการ ผมเป็นคนทำเอง ไม่มีเทรนเนอร์ ไม่ได้เข้ายิม ไม่ได้กินอาหารเสริม หรือยาลดน้ำหนัก แต่อย่างใด #ผิดถูกขออภัยครับ

วิ่งเปลี่ยนชีวิต! สาวโพสต์วิ่งครบ 1 ปี หายป่วย ไม่ต้องกินยาวันละ 16 เม็ด ร่างกายแข็งแรงขึ้น


ผมชื่อ โจ ครับ อายุ 31 ปี เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ ร่างกายเลยค่อนข่างพร้อมสำหรับการออกกำลังกาย (บุหรี่เพิ่งเลิกได้ 3ปีครับ) ผมเป็นคนอ้วนขี้อาย เคยพยายามลดน้ำหนัก ครั้งหนึ่ง ตอนกลางปี 59 ตอนนั้นหนัก 116.7 กิโลกรัม ใช้เวลา 4 เดือน สามารถลดได้ เหลือ 87 กิโลกรัม เเต่เป็นการลดน้ำหนักที่ผิดวิธี ทำให้มวลกล้ามเนื้อของผม หายไปด้วย จากนั้นปล่อยตัวมา จนน้ำหนัก ดีดขึ้นมา 118-120 กิโลกัม เลยเริ่มลดใหม่ ตอนนี้ครับ

ผมเริ่มจากการหาข้อมูล จากอินเตอร์เน็ต เกี่ยวกับด้านโภชนาการ เเละทำอาหารเองครับ เรื่องนี้เราต้องเน้นเป็นอย่างมากครับ เพราะมันสำคัญมาก 4 เดือนเเรกผมเเทบไม่หลุดเลยครับ ผมชั่งน้ำหนักเกือบ ทุกวันเพื่อจดบันทึก

เมื่อเราได้ข้อมูลด้านโภชนาการเเล้วผมก็ทำอาหารเองครับ เเทบทุกมื้อครับ ห่อไปที่ทำงาน ตลอดเช้าเที่ยง (กินข้าวในรถตลอดครับ) เช้าเที่ยง เมนูจะเหมือนกันครับ เป็นไก่นึ่ง ประมาณ 3 ขีด ไข่ต้ม 1 ใบ ข้าวไม่ขัดสี ประมาณ 1 กำมือเล็กๆ น้ำพริก อันละ 7 บาท จากร้านสะดวกซื้อเเบ่งทานเช้าเที่ยงครับ

ผักเป็นเเต่งกวา มะเขือเทศ บอคเคอรี่ ฟักทอง นึ่งครับ โดยผักเราหาใส่วนไปก็ได้ครับ ผักสดกินใบก็ได้ โดยสัดส่วนยึดตามหลัก การจัดจานเป็น 4 ส่วนครับ กากใย 2 ส่วน เเป้งดี 1 ส่วน โปรตีนจากเนื้อขาว 1 ส่วนครับ

ถ้าหากหิวระหว่างมื้อ ผมกินฝรั่งครับ 1 ลูก ให้พลังงานต่ำ มีวิตตามมินซีสูง มีเบต้า หรือจะเป็น มันนึ่ง ฟักทองนึ่ง ก็ได้ครับ น้ำกินได้เเค่น้ำเปล่านะครับ กับกาเเฟดำ กาเเฟดำผมดื่มวันละ 3 เเก้วครับ เช้า-สาย-ก่อนเที่ยงครับ เเละระหว่างวันต้องดื่มน้ำเยอะๆครับ

มื้อเย็น มีเวลาเราค่อยหาเมนูอร่อยๆครับโดยเราต้องทำเองครับ ผมจะหาเมนูใหม่ๆมาทำตลอดครับเพราะมื้อเย็นมันมีสวรรค์ จะเป็นพวก ลาบไก่ ยำทูน่า ปลาเผา นึ่ง ผัดกระเพรา ผัดพริกเเกง ปลาซาบะอีกมากมายครับ ผมเคยไปนั่งดูคนอื่น กินจิ้มจุ่มจนอิ่ม โดยผมกินเเค่น้ำเปล่าครับ ต้องตั้งใจให้มากๆครับ


#การออกกำลังกาย
ตอนช่วงเดือนเเรกผมเเทบไม่ได้ออกเลยครับ ช่วงหนัก 118-120 เเค่ไปเดินๆบ้างตามสวนสาธารนะ พยายามบอดี้เวท โดยหาข้อมูลท่าออกกำลังกายจากอินเตอร์เน็ตเหมือนเดิมครับ เดือนเเรกเเค่คุมอาหารลดไป 10 กว่าโลครับ

หลังจากนั้นเริ่มออกกำลังกาย เน้นไปทางเวทครับ เพราะวิ่งได้ไม่เยอะใช้ดัมเบล 20 กิโลกรัม 1 คู่ ครับ ยกวนไปตามคลิปในยูทูป ประมาณอาทิตย์ ละ 3 วัน วันละ 30-40 นาที บางวันก็ทำท่าเเพงค์ สควอต วนไปครับ ออกกำลังกายไม่ค่อยหนักมาก

พอหลังๆเริ่มวิ่งได้เริ่มวิ่งครับ วิ่งโดยเฉลี่ย ประทาน 2-3 วันต่อสัปดาห์ครับ การออกกำลังกาย ประมาณนี้ครับพอหลังๆกล้ามเนื้อเริ่มมากขึ้น เริ่มออกกำลังกายสนุกมากขึ้นครับ เราก็ออกได้หนักขึ้นโดยดูจากสภาพร่างกายของตัวเองครับ ยิ่งพักหลังๆเเรงเยอะ อยู่ออฟฟิศ ยังวิดพื้นอยู่หลังออฟฟิศเลยครับเพราะมันเนิ่มรู้สึกสนุก

#สุดท้ายนี้
ที่ผมโพสต์เป็นความจริงทุกประการครับ เพื่อเป็นกำลังใจ ให้คนที่ลดน้ำหนัก ว่ามีคนสามารถทำได้ครับ เเต่เราต้องทำมันให้ดีที่สุด ถ้าเราทำมันดีที่สุด มันจะสำเร็จเองครับ ร่างกายของคนเราจะพัฒนาหรือไม่ขึ้นอยู่กับ 3 สิ่ง ครับ เล่น-กิน-นอน ลองไปทบทวนดูครับว่าเราทำมันได้ดีทั้งหมดเเล้วหรือยังที่ถามว่าหนังย้วยมั้ย มีครับเเต่ไม่มาก

แหล่งที่มา : liekr.com