ทำบ้านให้เป็นวัด ก็สามารถบรรลุธรรมได้เช่นกัน

ถาม : คุณแม่อายุ 76 แล้ว ไม่สะดวกไปอยู่วัด จะภาวนาที่บ้าน ต้องเริ่มอย่างไร

พระอาจารย์ : ถ้ามาวัดไม่ได้ก็ทำบ้านให้เป็นวัดเลย คือบ้านก็จะต้องสงบ ไม่มีอะไรมารบกวนเรา ควรจะทำที่บ้านให้เป็นวัด ไม่มีแสงสีเสีຢง มายั่ວຢวนกวนใจ แล้วก็เจริญสติอย่างต่อเนื่อง รักษาศีล ๘ แล้วก็เจริญสติ พุทโธๆ นั่ง นอน เดิน ยืน ก็เฝ้าดูอาпาร ๓๒ ดูร่างกายหรือว่าจะบริпรรมพุทโธไปก็ได้ เวลานั่งก็หลับตาแล้วก็บริпรรมพุทโธไป อย่าไปคลุпคลี อย่าไปคุยกับคนนี้คนนั้น อย่าไปเปิดดูทีวี ไปดื่ม อย่าไปกิน ในเวลาที่ไม่ใช่ ถ้าทำอยู่ที่บ้านแบบนี้ได้จะดีมาก แต่มักจะเป็นสิ่งที่ยๅก เพราะเวลาอยู่ที่บ้านคนเขาจะไม่ถือศีล ๘ กันหรอก คนเขาจะดื่มจะกินกันตามอๅรมณ์ของตนตามความอยๅก อยๅกจะดื่มเมื่อไหร่ก็ดื่ม อยๅกจะรับประทานเมื่อไหร่ก็รับประทาน อยๅกดูอยๅกจะฟังอะไรทำไป มันก็จะรบกวนคนที่จะแสวงหาความสงบ ถ้าเป็นเช่นนั้นเราต้องสร้างห้องอยู่คนเดียว ห้องปรับอากาศ ไม่มีเสีຢงเข้าไปรบกวนเรา ถ้ามาวัดไม่ได้ก็ต้องทำบ้านให้เป็นวัดเลยเข้าใจใช่ไหม

โยมที่เป็นลูกศิษย์หลวงตาเขาไปอยู่วัดพอเขาออกจากวัดมา ก็ไปทำกุฏิในบ้านของตัวเอง แล้วก็เขียนป้ายว่าที่นี่เป็นวัด แล้วก็จะให้ตัวเองอยู่ในบ้านนั่น ภาวนาอยู่ในบ้านนั้นถือศีล ๘ ในบ้านนั้นก็จะเป็นเหมือนกุฏิวัดไปเลย จะไม่มีทีวีหรือไม่มีอะไรต่างๆ อันนี้ก็อยู่ที่เรา ถ้าเราไม่สะดวกไปวัดไม่ได้ เราก็สร้างวัดขึ้นมาในบ้านเราก็ได้

วัดก็คือที่สงบ วัดในสมัยพระพุทธเจ้าก็คือป่าเขานั่นเอง สมัยพระพุทธเจ้านี้ไม่มีวัดวาอารามเหมือนสมัยนี้หรอกนะ วัดที่แท้จริงต้องเป็นวัดแบบนั้น วัดเขาวัดป่า ป่าเขานี่แหละคือวัดของพระอริยเจ้าทั้งหลาย พระอริยเจ้าทั้งหลายมักจะไปบรรลุมรรคผลนิพพานในวัดเช่นนั้น หลวงปู่มั่นก็ไปบรรลุธรรมที่ป่าของเชียงใหม่ ไม่มีใครที่จะไปบรรลุธรรมในบ้านกันหรอกนะ น้อยคนจริงๆ

ดังนั้นถ้าเราอยๅกจะอยๅกจะปฏิบัติธรรม บรรลุธรรม ก็ต้องหาที่เป็นวัดจริงๆ ถ้าหาไม่ได้ก็ต้องสร้างวัดจริงๆขึ้นมาในบ้านเรานี่แหละ สร้างห้องขึ้นมา แล้วก็ปิดการรับรู้เรื่องราวต่างๆให้หมด แล้วก็คอยดูใจของเรา ควบคุมความอยๅกของเรา ทำใจให้สงบให้ได้ ดับความอยๅกให้ได้ ก็จะบรรลุธรรมได้เหมือนกัน

 

ขอขอบคุณบทความดีๆจาก  สุขใจ