ตำราโบราณ รักษาโรคเบาหวานหายขาด“หัวปลีกล้วย”เพียงทำตามขั้นตอนง่ายๆ เห็นผลแน่นอน!

โรคเบาหวาน เป็นโรคที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม แล้วแต่ก็ยังมีพฤติกรรมเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคเบาหวานได้อีกเช่น อ้วนเกินไปมีน้ำหนักเกิน ไม่ออกกำลังกาย หรือจะเป็นคนที่มีไขมันในเลือดสูง ซึ่งกลุ่มคนเหล่านี้ก็สุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานเช่นกัน แต่ก็น่าแปลกใจไม่น้อยว่าถึงแม้ทุกคนจะรู้ว่าโรคเบาหวานเป็นโรคที่น่ากลัว และมีผลแทรกซ้อนมากมาย แต่จนถึงปัจจุบันสถิตการพบผู้ป่วยโรคเบาหวานในประเทศไทยไม่ได้น้อยลงแต่อย่างใด
ถ้าอยากลดน้ำตาลในเลือดก็ต้องหมั่นควบคุมอาหาร และทานยาเพื่อรักษาระดับน้ำตาลในเลือด แต่ถ้าใครอยากรักษาด้วยธรรมชาติ ก็แค่ทำตามสูตรที่เรากำลังจะบอกนี้ รับรองว่าถ้าทำติดต่อกันอย่างถูกวิธีจะได้ผลแน่นอน

วิธีที่ว่านี้ ก็คือ การบริโภค “หัวปลีกล้วยน้ำว้าย่างไฟ” ซึ่งโดยปกติแล้ว กล้วยมีสรรพคุณทางยา คือ
– ยาง ช่วยสมานแผลห้ามเลือด
– ผลดิบ ช่วยแก้ท้องเสีย
– ผลสุก ช่วยเป็นยาระบาย

– หัวปลี แก้โรคเกี่ยวกับ ลำไส้ แก้โรคโลหิตจาง และลดน้ำตาลในเส้นเลือด โดยตัวที่เราจะสนใจก็คือ “หัวปลี” นั่นเอง คำสอนของปู่ย่าตายายหรือคนเก่าคนแก่ บอกไว้ว่า
“ผู้หญิงคนไหนอจยากจะให้หน้าอกโตเต่งตึ่ง ต้องกินหัวปลีของกล้วยน้ำว้า ถ้าเป็นแม่ลูกอ่อนจะมีน้ำนมดี กินหัวปลีน้ำนมไหลดี หน้าอกก็เต่งตึง กินได้ทั้งแบบดิบและสด แบบดิบก็จะนำมาปรุงในรูปของผักที่เป็นเครื่องเคียง เช่นในผัดไทย รสชาติจะฝาดๆแต่ถ้านำไปปรุงให้สุก ไม่ว่าจะเป็นต้มยำหัวปลี แกงไก่ใส่หัวปลี รสชาติจะนุ่ม มีรสหวานนิดๆอร่อยดีในเรื่องประโยชน์ของหัวปลีนั้นก็มีหลายอย่าง เช่นถือว่าเป็นอาหารบำรุงน้ำนมของผู้หญิงที่กำลังมีลูก” เพราะฉะนั้น คุณแม่ลูกอ่อนที่กำลังให้นมลูก จึงควรกินอาหารที่มีหัวปลีเป็นส่วนประกอบให้มากๆ แต่นอกจากหัวปลีจะเหมาะสมกับคุณแม่ลูกอ่อนแล้ว ในหัวปลียังมีแร่ธาตุมากมาย เช่น ธาตุเหล็กช่วยบำรุงเลือด ป้องกันโลหิตจาง และยังมีความสามารถในการลดน้ำตาลในเลือด รวมไปถึงความสามารถในการรักษาโรคกระเพาะได้ด้วย

วัตถุดิบ
1. หัวปลี ‘กล้วยน้ำว้า’ เท่านั้น ใช้หัวปลีจากกล้วยชนิดอื่นไม่ได้ 1 หัว วิธีทำ 1. นำหัวปลีมาย่างไฟ ย่างให้เปลือกชั้นนอกไหม้เกรียม
2. นำไปต้มกับน้ำ โดยต้องกะจำนวนของหัวปลีให้พอเหมาะ ต้มจนเดือด

3. ดื่มน้ำต้มหัวปลีต่างน้ำทั้งวัน โดยดื่มให้หมดหม้อวันละ 1 หัว จนครบ 7 วัน
หากคนที่เป็นเบาหวานดื่มแล้วถูกทางยาดื่ม ในช่วง 1-2 วันแรกจะมีอาการปวดเมื่อยตามร่างกายจนแทบทนไม่ไหว ซึ่งถือเป็นเรื่องดีแสดงว่ายานี้ได้ผล อย่างไรก็ตาม ต้องต้มดื่มจนครบ 7 วัน ตามที่บอกข้างต้น โรคเบาหวานจะดีขึ้นและหายได้

หลังจากดื่มครบ 7 วันแล้ว สามารถดื่มน้ำต้มหัวปลีนี้ไปได้เรื่อย ๆ โดยไม่จำเป็นต้องดื่มทุกวันเหมือนครั้งแรก อย่างไรก็ตาม หากใครที่เป็นเบาหวานแล้วต้มดื่มน้ำหัวปลีตามสูตร แต่ดื่มไป 3 วัน แล้วก็ยังไม่มีอาการตามที่กล่าวข้างต้น แสดงว่าไม่ได้ผล ไม่ถูกทางยา คุณน่าจะไม่สามารถใช้สูตรนี้ได้ และควรเลิกต้มดื่มได้เลย สูตรที่เราแนะนำนี้เป็นสูตรโบราณ ที่พวกเราขอแนะนำเป็นวิทยาทาน คุณหรือคนใกล้ตัวของคุณคนไหนที่เป็นเบาหวานควรจะทดลองสูตรนี้ดู รับรองว่าไม่มีอันตรายแต่อย่างใด

ที่มา: siamvariety