ในรอบเดือนที่ผ่านมาเราก็ได้เห็นกระแสของกินชนิดหนึ่งที่ต้องบอกเลยว่าฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองเลยทีเดียวสำหรับของหวานหนึบหนับทานคู่กับชานมอย่าง
“ไข่มุก” เป็นของทานเล่นที่มากับน้ำชานมที่มีมานานแล้วแต่จู่ๆ
ก็ฮิตขึ้นมาเพราะในโลกโซเชียลได้มีการโพสต์ภาพการนำไข่มุกมาผสมกับอาหารหลายๆ
อย่างไม่ว่าจะเป็นของคาวอย่าง ลาบ ยำ ส้มตำ ก๋วยเตี๋ยว ผัดกะเพรา
วันนี้เองทางเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมวิธีการทำไข่มุกทานเองกันแบบง่ายๆ ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยค่ะ กับเมนูสุดฮอตในนาทีเลยค่ะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากไข่มุกนั้นเองค่ะ
กินบ่อยมากค่ะวันนี้เลยมาทำเองซะเลยค่ะซึ่งทำไม่ยากเลยค่ะใชวัตถุดิบหลักเพียงแค่2อย่างค่ะไปดูวิธีทำเลยค่ะ
-น้ำตาลทรายแดง แค่นี้เองจ้า
.
นำน้ำตาลที่ได้ใส่ในแป้งมัน1/2ถต.คนจนแป้งละลาย
นำอ่างผสมแป้งวางบนหม้อน้ำร้อนคนจนแป้งหนืดขึ้น
.
.
เติมแป้งอีก1/2ถต.นวดให้แป้งจับตัวเป็นก้อนถ้าแห้งเกินให้ค่อยๆเพิ่มน้ำทีละน้อย
.
แบ่งแป้งแล้วคลึงเป็นเส้นยาวก่อนจะตัดแป้งเป็นชิ้นเล็ก
นำมาคลึงเป็นเม็ดกลมๆ
.
ต้มน้ำให้ร้อนเดือดแล้วนำมุกลงต้มคนตลอดนะ
พอมุกลอยขึ้นมาให้หรี่เป็นไฟอ่อนปิดฝาต้มต่อ20นาที
.
ครบ20นาทีปิดไฟไว้อีก10นาที
ครบเวลาก็ตักขึ้นใส่ชาม
.
ใส่น้ำทรายแดงอีก 2 ชต.ใครชอบหวานมากเพิ่มได้นะ
คนผสมให้น้ำตาลละลายเข้ากันเป็นอันเสร็จจ้า
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : item2day.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : ครัวคิดนิ
วันนี้เองทางเราจะพาเพื่อนๆ ไปชมวิธีการทำไข่มุกทานเองกันแบบง่ายๆ ว่าแล้วก็ไปชมกันเลยค่ะ กับเมนูสุดฮอตในนาทีเลยค่ะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากไข่มุกนั้นเองค่ะ
กินบ่อยมากค่ะวันนี้เลยมาทำเองซะเลยค่ะซึ่งทำไม่ยากเลยค่ะใชวัตถุดิบหลักเพียงแค่2อย่างค่ะไปดูวิธีทำเลยค่ะ
ส่วนประกอบ
-แป้งมัน-น้ำตาลทรายแดง แค่นี้เองจ้า
วิธีทำ
ละลายน้ำตาลทรายแดง1/3ถต.ในน้ำร้อน50 มล.นำน้ำตาลที่ได้ใส่ในแป้งมัน1/2ถต.คนจนแป้งละลาย
นำอ่างผสมแป้งวางบนหม้อน้ำร้อนคนจนแป้งหนืดขึ้น
.
.
เติมแป้งอีก1/2ถต.นวดให้แป้งจับตัวเป็นก้อนถ้าแห้งเกินให้ค่อยๆเพิ่มน้ำทีละน้อย
.
แบ่งแป้งแล้วคลึงเป็นเส้นยาวก่อนจะตัดแป้งเป็นชิ้นเล็ก
นำมาคลึงเป็นเม็ดกลมๆ
.
ต้มน้ำให้ร้อนเดือดแล้วนำมุกลงต้มคนตลอดนะ
พอมุกลอยขึ้นมาให้หรี่เป็นไฟอ่อนปิดฝาต้มต่อ20นาที
.
ครบ20นาทีปิดไฟไว้อีก10นาที
ครบเวลาก็ตักขึ้นใส่ชาม
.
ใส่น้ำทรายแดงอีก 2 ชต.ใครชอบหวานมากเพิ่มได้นะ
คนผสมให้น้ำตาลละลายเข้ากันเป็นอันเสร็จจ้า
เรียบเรียงเนื้อหาโดย : item2day.com, ขอขอบคุณที่มาจาก : ครัวคิดนิ