รักเพื่อน “อย่า” ให้เพื่อนยืมเงิน

รักเพื่อน “อย่า” ให้เพื่อนยืมเงิน

.
เรื่องเงินทอง คือเรื่องที่สร้างปัญหาให้
ทุกความสัมพันธ์กันมานักต่อนัก
จากที่เคยรัก เคยผูกพันธ์
หรือเคยสนิท ชิดเชื้อกันมานาน
ก็อาจพังครืนลงได้ไม่ยากนัก
.
เรามาดูกันดีกว่า ว่าทำไม
ถ้ารักเพื่อน อย่าให้เพื่อนยืมเงิน
.
1. ยิ่งเราสนิทกับคนที่จะยืมเงินเรามากเท่าไหร่
โอกาสที่จะได้คืนก็มีความเสี่ยง
ยกตัวอย่างกรณี
ถ้าคนที่จะยืมเงินมีหนี้หลายคน
เค้าจะเลือกจ่ายหนี้ให้กับคนที่เค้า
“เกรงใจ” ก่อน ส่วนคนสนิทหรือ
คนรู้จักมักได้คิวหลังๆ เสมอ
(เป็นผมเองก็ทำอย่างนั้นนะบอกตรงๆ)
.
2.ผมจำเป็นต้องปฏิเสธคนที่จะมายืมเงิน
โดยให้เหตุผลว่า ไม่อยากเสียเพื่อน
หรือคนรู้จัก เรื่องเงินเราขอไม่ช่วย
เพราะว่าเราก็มีภาระ แต่ถ้าเป็น
เรื่องอื่นๆ เรายินดีช่วยเต็มที่
ข้อนี้ผมใช้เฉพาะกับเพื่อน ที่ไม่สนิท
.
3.ถ้าทำตัวมีเงิน
โอกาสที่จะถูก ยืมตังค์ ก็จะมีมากขึ้นไปด้วย
เพราะเขาต่างหวังจะพึ่งพาเราได้
แต่ถ้าทำตัวติดดิน เขาคงประเมินแล้ว
ว่าขอยืมไป ก็คงไม่มีให้อยู่ดี
.
4.ก่อนให้ใครยืมเงินไป
ให้นึกถึงตัวเองก่อน ต้องคิดด้วยว่า
ถ้าหนี้ก้อนนั้นเป็นศูนย์เราจะอยู่ได้ไหม
“อย่าให้ตัวเองเดือดร้อน”
เพราะความเกรงใจ หรือความสงสาร
.
5.คนที่ติดหนี้พนันบอล
หรือธุรกิจมืดอย่าให้ยืมเงิน
เพราะโอกาสได้คืนต่ำมากๆ
.
6.ยิ่งเงินก้อนใหญ่ ยิ่งมีโอกาสได้คืนยากขึ้น
เพราะลูกหนี้บางคนมองว่าเป็นภาระ
ส่วนมาก ก่อนจะคืน มักจะนึกเสียดาย
เพราะยืมเรามาง่าย
แต่กว่าจะหามาคืนมันยาก
สุดท้ายก็เลยไม่คืน
หลบ หนีหายไปซะอย่างงั้น
.
7.ยิ่งระยะผ่านไปนานเท่าไหร่
โอกาสได้เงินคืนยิ่งยากขึ้นเรื่อยๆ
ส่วนตัวมองว่า ยิ่งนานไป
ความรู้สึกต้องรับผิดชอบที่ยืมเงินมา
มันจะลดลงเรื่อยๆ
(ลืมความรู้สึกรับผิดชอบไปแล้ว)
.
“อย่าใช้เงิน ซื้อใครออกไปจากชีวิต คิดสักนิด ก่อนเสียทั้งเพื่อน เสียทั้งเงิน”

แต่ก็ใช่ว่าจะไม่ให้ใครยืมเงินเลย
เวลาเพื่อนเดือดร้อนมา ถ้าไม่ช่วยเลย
สุดท้ายก็จะเป็นคนที่ไม่เหลือใคร
เราต้องเลือกคนที่ไว้ใจและคนสนิทจริงๆ
แต่โดยส่วนมากแล้วผมมักจะให้ไปเลย
ยามที่เพื่อน (สนิท) เดือดร้อน
.
สมมุติ ขอยืม 5,000 บาท
ผมช่วยเลย 1,000 บาท ไม่ต้องคืน
ที่เหลือไปหาเอาเอง
แบบนี้จะสบายใจกว่า
และความสัมพันธ์ก็ไม่เสียด้วย
เพราะอย่างน้อยเขาจะรู้สึกว่า
“เราไม่ทอดทิ้งเขายามลำบาก”
และเขาต้องตอบแทนอะไรเราสักอย่าง
นั่นจะไม่ทำให้เขาหนีหน้าไปไหน
กลับทำให้ อยากช่วยเหลือเรามากขึ้น
จนในที่สุด เงิน 1พันบาท ที่ให้ไป
ก็ถูกคืนมา ในรูปแบบอื่น ที่มีค่ายิ่งกว่า
หรือในวันข้างหน้า ถ้าเขามีเงิน
เขาก็หาโอกาสคืนเองแหละ
โดยที่เราไม่ต้องไปหวัง ไปทวงอะไร
ให้ลำบากใจกันทั้งสองฝ่าย


ขอบพระคุณแหล่งที่มา : kwamru.com