Home »
Uncategories »
รู้ยัง!! สติ๊กเกอร์ “วัดท่าไม้” ที่ติดอยู่ “กระจกหลังรถ” ติดไว้เพื่ออะไร
รู้ยัง!! สติ๊กเกอร์ “วัดท่าไม้” ที่ติดอยู่ “กระจกหลังรถ” ติดไว้เพื่ออะไร
รู้ยัง!! สติ๊กเกอร์ “วัดท่าไม้” ที่ติดอยู่ “กระจกหลังรถ” ติดไว้เพื่ออะไร
เชื่อว่าหลายคนคงเคยเห็นสติ๊กเกอร์ที่มีคำว่า “ วัดท่าไม้ ”
ที่ติดอยู่กระจกหลังรถหลายๆคัน คงสงสัยว่า มีที่มาที่ไปอย่างไร
หรือติดไว้เพื่ออะไร วันนี้ทางเราเลยหาคำตอบมาให้
จะได้หายสงสัยกันสักทีไปดูกันเลย
ประวัติวัดท่าไม้
วัดท่าไม้ หลายคนน่าจะเคยได้ยินกันมาบ้างเกี่ยวกับความศักสิทธิ์อันเลื่องชื่อของวัดนี้
ที่แม้แต่กระทั่งดาราดังอย่าง ณเดชน์ คูกิมิยะ, ญาญ่า อุรัสยา, อั้ม
พัชราภา,มาริโอ้ ที่ต่างพากันไปทำบุญไหว้พระขอพร สักการะบูชา กันบ่อยๆ
เชื่อกันว่าที่วัดแห่งนี้จะมีการทำบุญสะเดาะเคราะห์เสริมดวง
โดดเด่นในเรื่องเมตตามหานิยม
รวมไปถึงเรื่องของการดูดวงกับ “พระครูปลัดอุเทน สิริสาโร เจ้าอาวาสวัดท่าไม้” ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่คนส่วนใหญ่นิยมมาเช่นกัน มาตอนนี้คงอยากทราบกันแล้วว่า วัดท่าไม้ มีประวัติความเป็นมาอย่างไร
วัดท่าไม้ ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2520
ได้รับพระราชทานวิสุงคามมะสีมาเมื่อปีพุทธศักราช 2537 ปัจจุบัน
ตั้งอยู่เลขที่ 51 หมู่ที่ 11 ถนนเศรษฐกิจ 1 ซอย 8 ต.ท่าไม้ อ.กระทุ่มแบน
จ.สมุทรสาคร ในวัดมีพื้นที่ประมาณ 6 ไร่
โดยเมื่อต้นปี พ.ศ. 2520 มีพระภิกษุหนุ่ม อายุราว 24 ปี
เป็นพระธุดงค์ชื่อ ยอดชาย ฉายา อุปติสฺโส พรรษา 1 วัดหนองโตนด (พันท้าว)
ต.พงตึก อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี ต้องการหาสถานที่เพื่อปฏิบัติสมณธรรม
คุณทุยได้ชี้นำบริเวณปากคลองคอกหมู ริมแม่น้ำท่าจีน
อยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้านนั้นนัก ซึ่งวิเวกร่มรื่นสงบ อากาศดีไม่มีคนพลุกพล่าน
แล้วชักชวนญาติสนิทมิตรสหาย ช่วยกันสร้างที่พักสงฆ์
ด้วยจริยาวัตร และสามัคคีธรรมร่วมกันของพระภิกษุกับชาวบ้าน
ประสงค์จะสร้างเป็นวัด จึงขออนุญาตสร้างวัด ในวันที่ 20 ตุลาคม พ.ศ.2520
และเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2520
จนได้รับใบอนุญาตสร้างวัดจากกรมการศาสนา ให้นามว่า “สำนักสงฆ์โพธิธรรมรังษี(ท่าไม้)”
จนเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2532 ได้ยกฐานะของสำนักสงฆ์โพธิธรรมรังษี ขึ้นเป็น “วัดท่าไม้”
ตามประกาศของกระทรวงศึกษาธิการ
เนื่องจากเป็นการสมควรที่วัดท่าไม้จะได้มีเจ้าอาวาส ท่านเจ้าคณะตำบลท่าไม้
ในขณะนั้น คือ ท่านพระครูสาครธรรมรัตน์ วัดสุวรรณรัตนาราม ได้อาราธนา
ท่านพระครูโสภณธรรมสาคร เจ้าคณะอำเภอกระทุ่มแบน วัดอ้อมน้อย
มาประชุมร่วมกับพระภิกษุสามเณรและทายกทายิกาของวัดท่าไม้
นำเสนอพระเดชพระคุณ ท่านเจ้าคุณพระราชสาครมุนี เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาคร
วัดเจษฎาราม ให้พระอาจารย์สุรสิงห์ สุรสีโลเป็นเจ้าอาวาส ตั้งแต่วันที่ 1
กันยายน พ.ศ.2533
ประกอบพิธีวางศิลาฤกษ์สร้างอุโบสถ ในวันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ.2534
ได้ทุนดำเนินการขั้นต้นรวม 840,000 บาท ตามแบบแปลนของกรมศิลปากร
เป็นอุโบสถภายในกว้าง 5 เมตร ยาว 9 เมตร มีมุขหน้าและมุขหลังรวมอีก 6 เมตร
มี 6 หน้าต่างมี 4 ประตู สำเร็จในปีเดียวกัน
และท่านพระครูศีลสาครวิมล
ได้สร้างถาวรวัตถุไว้คู่พระศาสนามากมายจวบจบวาระสุดท้ายแห่งชีวิต
ถาวรวัตถุเหล่านี้มีสภาพทรุดโทรม
เนื่องจากมีน้ำท่วมเพราะเหตุที่พื้นที่บริเวณวัดต่ำกว่าเขื่อนกั้นน้ำ
จนกระทั่งเมื่อ พระครูศีลสาครวิมล อดีตเจ้าอาวาสวัดท่าไม้ ได้มรณภาพลง
เจ้าคณะจังหวัดสมุทรสาครจึงแต่งตั้งให้ พระครูปลัดอุเทน สิริสาโร
ย้ายจากวัดท่ากระบือมาดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสสืบจนถึงปัจจุบัน
ถาวรวัตถุที่ยังหลงเหลือจากอดีตคงมีเพียงแต่
พระอุโบสถที่มีพระพุทธชินราชประดิษฐานเป็นพระประธานเท่านั้น
ส่วนถาวรวัตถุอื่นได้เปลี่ยนแปรสภาพไปตามกาลเวลาและสถานการณ์
ในช่วงระยะเวลา 3 ปีที่ผ่านมา ที่ท่าน พระครูปลัดอุเทน สิริสาโร
ได้มาดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาส
มีการเปลี่ยนแปลงถาวรวัตถุภายในวัดท่าไม้โดยใช้ระยะเวลาในการบูรณะเพียงแค่ 1
ปีเศษ
ถาวรวัตถุที่สำคัญภายในวัดท่าไม้ ณ ปัจจุบัน
– พระอุโบสถ มีพระพุทธชินราชจำลองหน้าตัก 69 นิ้ว
เป็นพระประธานในพระอุโบสถ รวมทั้งมีพระเชียงแสน พระสุโขทัย และพระอู่ทอง
ร่วมประดิษฐานในพระอุโบสถด้วย
– ศาลาการเปรียญ มีพระพุทธหิรัญราช เป็นพระพุทธรูปทรงเครื่องกษัตริย์ปางประทานพร เป็นพระประธานในศาลาการเปรียญ
– ศาลาชินบัญชร เป็นสถานที่รองรับพุทธศาสนิกชนในการปฏิบัติธรรมรักษาศีลเจริญสติปัฏฐานสี่
– ศาลาบูรพาจารย์ เป็นศาลาที่ประดิษฐานพระเกจิดังในเมืองไทย ซึ่งทางวัดท่าไม้ได้อัญเชิญประดิษฐานไว้ 4 รูป
1. หลวงปู่ทวด วัดช้างให้
2. สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี)
3. พระไพโรจน์วุฒาจารย์ (รุ่ง ติสสโร) เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำท่าจีน
4. หลวงพ่อยี
– ศาลาเทวาพิทักษ์ เป็นที่ประดิษฐานพระราหูเป็นศาลาประกอบพิธีกรรมการสวดดาวนพเคราะห์ย้ายรวมถึงใช้เป็นศาลาเอนกประสงค์ต่างๆ
– ศาลาพระธรรมจักรแก้ว
– ศาลาเจ้าแม่กวนอิม เป็นที่ประดิษฐานเจ้าแม่กวนอิม เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเชื้อสายจีนได้กราบสักการบูชา
– ศาลาพระแม่สิริมหามายา
– หอฉัน
– หอกลอง
– หอระฆัง
– หอวัตถุมงคลและของที่ระลึก
ความนิยมกับการติด “สติ๊กเกอร์วัดท่าไม้” ที่รถ
เชื่อว่าใครหลายๆ
คนที่ใช้รถใช้ถนนจะต้องเห็นเหมือนกันว่าทำไมรถที่เราพบเห็นแต่ละคันถึงได้มีสติ๊กเกอร์ที่ระบุคำว่า
วัดท่าไม้กันเยอะแยะขนาดนั้น อย่างน้อยก็ 5 คันต่อหนึ่งชั่วโมง
จนบางครั้งพอเราเห็นบ่อยขึ้นก็ทำให้นึกขึ้นได้ว่า
นี่ต้องเป็นอีกหนึ่งส่วนสำคัญรองจากทะเบียนรถที่ขาดไม่ได้แน่ๆ แล้ว
วัดท่าไม้ ที่ว่ากันนี้อยู่ที่ไหนกันล่ะ แล้วทำไมต้องไปวัดท่าไม้
อยากรู้คำตอบเหมือนกันก็เลยลองไปค้นหาเรื่องราวที่น่าจะทำให้ความสงสัยนี้กระจ่างได้มาเล่าสู่กันฟัง
จะได้ร้องอ๋อไปพร้อมๆ กัน
วัดท่าไม้ เดิมทีน่าจะรู้กันอยู่แล้วว่าเป็นวัดเล็กๆ
วัดหนึ่งที่อยู่ในอำเภอกระทุ่มแบน จังหวัดสมุทรสาคร
วัดแห่งนี้เป็นที่รู้จักกันในวงแคบเฉพาะผู้ต้องการจะเดินทางมาแสวงหาโชคลาภและประกอบพิธีกรรมที่สามารถช่วยยึดเหนี่ยวจิตใจได้
แต่เชื่อรึเปล่าว่าจากวันนั้นถึงวันนี้ โดยเฉพาะในช่วงสุดสัปดาห์
มีผู้คนเป็นจำนวนมากเดินทางมาที่วัดท่าไม้เพื่อกราบไหว้สักการะองค์พระและประกอบพิธีกรรมต่างๆ
ซึ่งแต่ละคนมักจะกลับออกไปพร้อมด้วยสติ๊กเกอร์ที่ผ่านการปลุกเสกอย่างน้อยคนละ
1 แผ่น ทำให้ในตอนนี้จำนวนการผลิตของสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้พุ่งสูงขึ้นถึง
30,000 แผ่นต่อเดือน
แต่กระนั้นก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของลูกศิษย์
เดิมทีสติ๊กเกอร์วัดท่าไม้ผลิตขึ้นเพื่อใช้แสดงความเป็นลูกศิษย์ของวัดเท่านั้น
ไม่ได้ใช้เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจและเป็นเครื่องรางที่ใช้ปกป้องคุ้มครองภัยดังเช่นในทุกวันนี้
นั่นเอง จึงทำให้ วัดท่าไม้
กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการแสวงหาโชคลาภใหม่ของคนไทยในทุกวันนี้
นับได้ว่า สติ๊กเกอร์วัดท่าไม้ เป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์การสร้างแบรนด์ สำหรับเรียกศรัทธาจากผู้คนรูปแบบใหม่ที่ไม่เคยมีที่ไหนมาก่อน ซึ่งในมุมมองของนักวิชาการระบุว่า วัดท่าไม้
สามารถสร้างความโดดเด่นในแง่ของชื่อสื่อให้ไปสู่คนรอบนอกได้อย่างกว้างขวางในทุกๆ
ที่
อีกทั้งยังช่วยให้ประสบความสำเร็จในการขยายฐานเสียงลูกศิษย์อันเนื่องมาจากบริการที่ตอบสนองความต้องการผู้คนจำนวนมากได้อย่างเฉพาะเจาะจงและแม่นยำ
ฉะนั้น สติ๊กเกอร์วัดท่าไม้
ไม่ได้เป็นเพียงวัตถุมงคลที่ลูกศิษย์นำมาติดไว้ที่รถเพียงเท่านั้น
แต่ยังเป็นอีกเครื่องมือสื่อสารหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่พบเห็นในแง่ของการสร้างการรับรู้ได้อีกด้วย
จึงจะเห็นได้ว่ากลยุทธ์การสร้างแบรนด์เช่นนี้ไม่ได้เพียงช่วยให้เกิดการรับรู้และความน่าเชื่อถือสำหรับองค์กรเพียงอย่างเดียว
ทุกวันนี้สถาบันพระพุทธศาสนาก็หันมาใช้วิธีการแบบนี้เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่น่าศรัทธา
น่านับถือได้เช่นเดียวกัน
โดยจะเห็นได้จากความสำเร็จของวัดท่าไม้ที่กระตุ้นความอยากรู้ของคนให้เข้าสู่
สถาบันวัดท่าไม้ ได้อย่างมหาศาล
การเดินทางไปวัดท่าไม้
การเดินทางไปวัดท่าไม้สำหรับใครที่มีรถยนต์ส่วนตัว อาจวิ่งเข้าติวานนท์ –
นครอินทร์ – กาญจนาภิเษก – พุทธมณฑลสาย 4
จากนั้นให้เลี้ยขวาเข้าถนนเพชรเกษม ต่อด้วยเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 3019
(เศรษฐกิจ) เข้าไปประมาณ 3 – 4 กิโลกเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าซอย
(ดูตามแผนที่) ให้ขับรถข้ามแม่น้ำท่าจีนก็จะเจอวัดท่าไม้อยู่ซ้ายมือ
**อย่าลืมแชร์ส่งต่อเรื่องราวดีให้กับคนที่คุณรู้จักด้วยนะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : eatrices.com, tnews.co.th