เป็นภูมิปัญญาที่นำสิ่งใกล้ตัว
รวมถึงค่าใช้จ่ายในเรื่องต้นทุนไม่สูงมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการเกษตร
วันนี้เรามีสาระความรู้ด้านการเกษตร เกี่ยวกับกาแฟผสมนมเปรี้ยว ขับไล่แมลง
มีวิธีการทำอย่างไรบ้างมาดูกันเลย
ส่วนผสมที่ใช้
1. กาแฟไทย (เขาช่อง เพราะมีคาเฟอีนมาก) 2 ช้อนชา
2. นมเปรี้ยว (ยาคูลท์) 1 ขวดเล็ก
หมายเหตุ : อัตราส่วนนี้ใช้ผสมกับน้ำ 20 ลิตร
ขั้นตอนวิธีการทำ
1. กาแฟไทย (เขาช่อง เพราะมีคาเฟอีนมาก) 2 ช้อนชา ละลายในน้ำร้อน 1 ใน 4 ของแก้ว
2. คนให้ละลาย แล้วจึงผสมน้ำสะอาดที่เย็นให้ได้ครึ่งแก้ว แต่ถ้ายังไม่เย็นดีก็ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น
3. ก่อนเทนมเปรี้ยว(ยาคูลท์) 1 ขวดเล็ก ลงไป คนให้เข้ากันก่อน จากนั้นเทลงถังพ่น (ถ้าเคยฉีดพ่นสารเคมีให้ล้างน้ำยาล้างจานให้สะอาด ประมาณ 2 ครั้ง)
4. เติมน้ำสะอาดให้เต็ม คนให้เข้ากัน ฉีดพ่นผักให้ทั่ว แต่ควรฉีดพ่นหลัง 4 โมงเย็น เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ และให้การดูดซึมของกาแฟดีขึ้น ต้นทุนประมาณ ถังพ่นละ (ขนาด 15-20 ลิตร) ประมาณ 10 บาท
ระยะเวลาการฉีดพ่น
ระยะเวลาการฉีดพ่น จำนวน 2 ครั้ง หลังปลูกผัก (ปลูกโดยใช้กล้าผัก) 10 วัน และ อีกครั้งหลังครั้งแรก 15 วัน รวม 25 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว จากประสบการณ์การใช้สูตรดังกล่าวที่ผ่านมา ต้นผักไม่มีการทำลายของหนอนและแมลงศัตรูผักอีกเลย
ประโยชน์
1. ช่วยขับไล่แมลงในแปลงพืชผัก
2. ช่วยให้ผักมีความกรอบ และรสชาติหวานยิ่งขึ้น
3. ผักการเจริญเติบโตดี และกรอบ อร่อย เป็นที่ถูกใจของผู้บริโภค
เกร็ดความรู้
ทำไมต้องนำกาแฟมาเป็นส่วนผสม? เพราะกาแฟที่มีกรดคลอโรเจนนิก คาเฟอีน ซึ่งเป็นอันตรายต่อแมลงที่พบบริเวณแปลงผักศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง การนำกาแฟมาไล่แมลงเป็นการใช้วัสดุที่หาได้ง่าย มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อพืชและคน
ดังนั้นโครงงานนี้จึงสำคัญอย่างยิ่งกับผลผลิตทางการเกษตรที่ดีและปลอดภัย จึงเลือกใช้กาแฟในการแก้ไขปัญหาแมลงรบกวนพืช
ขอบคุณที่มาจาก : เกษตรฮอตนิวส์
ส่วนผสมที่ใช้
1. กาแฟไทย (เขาช่อง เพราะมีคาเฟอีนมาก) 2 ช้อนชา
2. นมเปรี้ยว (ยาคูลท์) 1 ขวดเล็ก
หมายเหตุ : อัตราส่วนนี้ใช้ผสมกับน้ำ 20 ลิตร
ขั้นตอนวิธีการทำ
1. กาแฟไทย (เขาช่อง เพราะมีคาเฟอีนมาก) 2 ช้อนชา ละลายในน้ำร้อน 1 ใน 4 ของแก้ว
2. คนให้ละลาย แล้วจึงผสมน้ำสะอาดที่เย็นให้ได้ครึ่งแก้ว แต่ถ้ายังไม่เย็นดีก็ตั้งทิ้งไว้ให้เย็น
3. ก่อนเทนมเปรี้ยว(ยาคูลท์) 1 ขวดเล็ก ลงไป คนให้เข้ากันก่อน จากนั้นเทลงถังพ่น (ถ้าเคยฉีดพ่นสารเคมีให้ล้างน้ำยาล้างจานให้สะอาด ประมาณ 2 ครั้ง)
4. เติมน้ำสะอาดให้เต็ม คนให้เข้ากัน ฉีดพ่นผักให้ทั่ว แต่ควรฉีดพ่นหลัง 4 โมงเย็น เพื่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ และให้การดูดซึมของกาแฟดีขึ้น ต้นทุนประมาณ ถังพ่นละ (ขนาด 15-20 ลิตร) ประมาณ 10 บาท
ระยะเวลาการฉีดพ่น
ระยะเวลาการฉีดพ่น จำนวน 2 ครั้ง หลังปลูกผัก (ปลูกโดยใช้กล้าผัก) 10 วัน และ อีกครั้งหลังครั้งแรก 15 วัน รวม 25 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว จากประสบการณ์การใช้สูตรดังกล่าวที่ผ่านมา ต้นผักไม่มีการทำลายของหนอนและแมลงศัตรูผักอีกเลย
ประโยชน์
1. ช่วยขับไล่แมลงในแปลงพืชผัก
2. ช่วยให้ผักมีความกรอบ และรสชาติหวานยิ่งขึ้น
3. ผักการเจริญเติบโตดี และกรอบ อร่อย เป็นที่ถูกใจของผู้บริโภค
เกร็ดความรู้
ทำไมต้องนำกาแฟมาเป็นส่วนผสม? เพราะกาแฟที่มีกรดคลอโรเจนนิก คาเฟอีน ซึ่งเป็นอันตรายต่อแมลงที่พบบริเวณแปลงผักศูนย์การเรียนรู้เศรษฐกิจพอเพียง การนำกาแฟมาไล่แมลงเป็นการใช้วัสดุที่หาได้ง่าย มีประสิทธิภาพ และไม่เป็นอันตรายต่อพืชและคน
ดังนั้นโครงงานนี้จึงสำคัญอย่างยิ่งกับผลผลิตทางการเกษตรที่ดีและปลอดภัย จึงเลือกใช้กาแฟในการแก้ไขปัญหาแมลงรบกวนพืช
ขอบคุณที่มาจาก : เกษตรฮอตนิวส์