1. มองย้อนอดีต
ก่อนเริ่มเป้าหมายใดๆ ให้เรามองย้อนอดีตตัวเองกลับไป ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาแห่งความสุขหรือช่วงเวลาแห่งความล้มเหลว แล้วนำบทเรียนที่ได้จากช่วงนั้นๆ มาเรียบเรียงเพื่อวิเคราะห์ความถนัด สิ่งที่ชอบ หรือสิ่งที่ไม่ชอบของตัวเอง เพื่อให้การบรรลุเป้าหมายของเราเกิดจากความสุขใจ ไม่ฝืนตัวเอง
2. เป้าหมายของเรามีไว้เพื่ออะไร
เมื่อวิเคราะห์ตัวเองได้แล้ว เขียนเป้าหมายไว้แล้ว แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะทำสำเร็จทั้งหมดไหม เราก็เริ่มมาถามตัวเองก่อนเลยว่า เป้าหมายเหล่านั้นมีไว้เพื่ออะไร เมื่อเรารู้ถึงแรงจูงใจที่จะทำให้เป้าหมายเราสำเร็จแล้ว เราก็จะยิ่งมีความพยายามไปถึงจุดนั้นให้ได้ง่ายขึ้น
3. เขียนไดอะรี่อนาคต
กำหนดเป้าหมายเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่รู้จะเริ่มยังไง คราวนี้ก็ต้องมาลองเขียน ‘ไทม์ไลน์’ เส้นทางสู่เป้าหมายของเรา โดยให้เราเขียนถึงเส้นทางอนาคตของตัวเองที่จะทำตามเป้าหมาย ทั้งเวลาอันใกล้นี้ ไปจนถึงอนาคตที่ยาวไกล เช่น ตั้งเป้าจะขายเสื้อผ้าออนไลน์ ก็เขียนลงไดอะรี่ว่าวันจันทร์ – อ่านหนังสือเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์
วันอังคาร – คิดชื่อร้านเสื้อผ้าตนเอง ตั้งใจว่าจะให้ชื่อดูน่ารักๆ
วันอาทิตย์ – ลองซื้อโฆษณาผ่านออนไลน์ และต้องขายเสื้อให้ได้อย่างน้อย 5 ตัว โดยการบอกต่อเพื่อนๆ และคนรู้จักก่อน
4. ยืดหยุ่นเป้าหมายได้
เพราะชีวิตเป็นเรื่องไม่แน่นอน ดังนั้น หากวันไหนทำตามแผนที่วางไม่ได้ ก็แค่ไม่ต้องไปคิดมาก ชีวิตยืดหยุ่นได้ แผนการก็ยืดหยุ่นได้เช่นกัน จะสลับสับเปลี่ยนช่วงกลางทางอย่างไร ก็สามารถไปถึงเป้าหมายได้เหมือนกัน ขอเพียงแค่อย่าหยุดก็พอ
5. หาเพื่อนร่วมเป้าหมาย
เมื่อเขียนเป้าหมายครบแล้ว ถึงเวลาที่จะลงมือทำ ให้ลองหาคู่หู คนสนิท มาเป็นผู้ร่วมเป้าหมาย แต่ไม่ได้หมายความว่าให้คนๆ นั้นมาร่วมทำเป้าหมายด้วย แต่มีไว้เพื่อให้เรารู้สึกถึงการทำเป้าหมายให้สำเร็จ
หน้าที่ของเพื่อนร่วมเป้าหมาย คือ คนที่จะคอยให้กำลังใจเมื่อเราท้อแท้ มอบรางวัลให้เมื่อเราทำสำเร็จ (อาจจะให้เลี้ยงขนมเล็กๆ น้อยๆ) หรือลงโทษเราหากเราไม่ทำตามเป้า (ปรับเงิน 5 บาททุกครั้งที่ยอมแพ้!)
แหล่งที่มา: goodlifeupdate