5 ประโยชน์ เมื่อดื่มกาแฟติดต่อกันทุกวัน
อย่างที่รู้กันว่า “กาแฟ” นั้นเป็นตัวช่วยที่ดีในเรื่องของการตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า เพราะในกาแฟนั้นมีคาเฟอีนที่มีฤทธิ์ช่วยในการทำงานของสมอง ช่วยขยายหลอดลมและการขับปัสสาวะได้ดียิ่งขึ้น ดังนั้นปริมาณคาเฟอีนที่ได้รับจึงมีผลต่อร่างกายโดยตรง
หลายคนได้ตั้งคำถามว่าควรกินกาแฟวันละกี่แก้วดี มากน้อยแค่ไหนดี จึงจะปลอดภัยและเหมาะสมกับร่างกายของตัวเอง แต่จำนวนแก้วนั้นไม่ได้มีผลโดยตรงเท่ากับจำนวนคาเฟอีนที่อยู่ในกาแฟ
โดยปกติแล้วร่างกายควรได้รับคาเฟอีนไม่เกิน 200 mg เพื่อที่จะไม่ไปกระตุ้นสมองจนมากเกินไป เพราะหากถ้าได้รับปริมาณคาเฟอีนที่มากเกินนั้น จะส่งผลให้เป็นเหตุใจสั่น มือสั่น หงุดหงิดง่าย กระวนกระวาย ปวดศีรษะ นอนไม่หลับ บางคนกินมากเกินไปอาจทำให้เกิดการท้องเสียได้ในระยะเวลา 2-3 ชั่วโมง
ปริมาณที่เหมาะคือไม่เกิน 300 มิลลิกรัมต่อวัน คือกาแฟกี่แก้ว หากเป็นกาแฟคั่วบดแบบเอสเปรสโซ 1 ช็อต (Espresso 1 shot) จะมีคาเฟอีนประมาณ 115 มิลลิกรัม และไม่ว่าจะเป็นลาเต้ คาปูชิโน่ หรืออะไรก็ตามปริมาณกาแฟและคาเฟอีนก็เท่ากัน เพราะที่ต่างกันคือปริมาณน้ำ นม และสารให้ความหวานอื่น ๆ แต่หากเป็นกาแฟผงหรือกาแฟสำเร็จรูป 1-1.5 ช้อนชา จะมีคาเฟอีนประมาณ 22-87 มิลลิกรัมขึ้นอยู่กับยี่ห้อ ปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมมีผลต่อร่างกายโดยตรง แล้วกาแฟที่คุณดื่มเข้าไปในแต่ละวันมีผลกับร่างกายคุณอย่างไร
1. ผลดีต่อผิวพรรณ
ใครจะคิดว่ากาแฟจะมีผลดีต่อผิวได้ อย่าลืมว่ากาแฟช่วยทำให้โลหิตไหลเวียนได้คล่อง ช่วยให้อวัยวะย่อยอาหารทำงานได้ดีขึ้น ช่วยแก้ปัญหาท้องผูก ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อผิวพรรณโดยตรง
2. ลดโอกาสการเป็นมะเร็งและโรคอื่น ๆ
มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ยืนยันได้ว่าการดื่มกาแฟสามารถช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคมะเร็งในช่องปาก มะเร็งลำไส้ มะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก มะเร็งต่อมลูกหมาก และมะเร็งตับได้ เนื่องจากคาเฟอีนจะไปช่วยยับยั้งการเกิดเซลล์ผิดปกติ และกำจัดสิ่งไม่ดีที่ร่างกายได้รับออกไปได้ในระดับหนึ่ง และที่สำคัญยังลดอัตราการเกิดโรคหัวใจ โรคหลอดโลหิตสมอง และโรคเบาหวานได้อีกด้วย
3. อารมณ์ดี และความจำดีขึ้น
ประโยชน์ของคาเฟอีนอย่างหนึ่งคือช่วยกระตุ้นสมองให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า ส่งผลให้อารมณ์ดีขึ้นโดยตรง แถมยังมีสมาธิดี และจิตใจสงบขึ้น และเพราะการมีสมาธิดีก็ส่งผลให้ความจำดีขึ้นด้วย แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของปริมาณคาเฟอีนที่เหมาะสมด้วย
4. สมรรถภาพร่างกายดีขึ้น
เมื่อเปรียบเทียบกับคนที่ไม่ได้ดื่มกาแฟทุกวัน คนที่ดื่มกาแฟทุกวันจะมีสมรรถภาพร่างกายที่ดีกว่า คล่องแคล่วและมีการเคลื่อนไหวที่ดีกว่า เนื่องจากคาเฟอีนไปช่วยกระตุ้นหลอดโลหิต ส่งผลให้สามารถใช้แรงหรือออกกำลังกายได้ดีขึ้น เช่น ขี่จักรยาน การว่ายน้ำ และเล่นกีฬาได้นานขึ้น
5. ท้องไม่ผูกและระบบย่อยดีขึ้น
กาแฟสามารถช่วยย่อยอาหาร คาเฟอีนมีส่วนช่วยในการแยกจับไขมัน ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบกินอาหารประเภทเนื้อ หลังกินอาหารประเภทเนื้อแล้ว ดื่มกาแฟแก้วหนึ่งจะช่วยย่อยอาหาร ลดภาระการทำงานของกระเพาะ นอกจากนี้ ปริมาณใยอาหารในกาแฟมากกว่าน้ำส้ม ซึ่งสามารถกระตุ้นลำไส้ให้เคลื่อนตัวขยับเขยื่อน ฉะนั้นการดื่มกาแฟสามารถแก้ท้องผูกได้
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไม่ใช่ปริมาณการดื่มกาแฟต่อวัน แต่สิ่งที่เป็นปัญหาและน่ากลัวที่สุดก็คือ ปริมาณน้ำตาลทราย น้ำตาลเทียม นมข้น และครีมเทียมมากกว่า สิ่งเหล่านี้มีผลเสียต่อร่างกายยิ่งกว่ากาแฟเสียอีก เพราะฉะนั้นการดื่มกาแฟที่อันตรายก็คือกาแฟที่ผสมโน่นผสมนี่ เพราะลำพังกาแฟผสมน้ำไม่ได้มีผลเสียกับสุขภาพร่างกายเท่าไหร่เลย
ขอขอบคุณ : line today