7 สมุนไพร “กำจัดเห็บหมัด” ให้สิ้นซาก คุณทำได้ง่ายๆด้วยตัวเอง
เป็นที่แน่นอนว่าใครต่อหลายคนก็มีสัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสุนัข ก็คงพอเข้าใจกับปัญหา “เห็บหมัด” ที่มารบกวนใจอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุนัขที่มีเห็บหมัดเป็นจำนวนมากมักจะสลัดคุณแล้วเห็บหมัดก็ไต่ขึ้นตามผนังบ้าน
บอกเลยว่าเห็นแล้วรู้สึกไม่ชอบเลย เห็นแล้วอดยี้…ไม่ได้ ในวันนี้เราเลยขอนำเสนอวิธีการกำจัดเจ้าวายร้ายพวกนี้ ให้ออกไปจากสุนัขสัตว์เลี้ยงบ้านเรา แล้วจะไม่มากวนใจคุณอีกเลย
จากผลงานวิจัย เรื่อง “การพัฒนาสมุนไพรเพื่อใช้ภายนอกในทางสัตวแพทย์” โดย รศ.ดร.น.สพ. ณรงค์ จึงสมานญาติ และคณะฯ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ พบว่า มีพืชไทย 16 ชนิด ที่มีฤทธิ์ในการกำจัดเห็บได้ และพบวิธีสกัดแบบง่ายที่เกษตรกรหรือผู้เลี้ยงสุนัขสามารถทำได้เอง สามารถกำจัดเห็บสุนัข แมว หมัด เหา รวมถึงเห็บโคได้ด้วย โดยมีชนิดและขั้นตอนต่างๆ ดังนี้
เมล็ดน้อยหน่า
นำเมล็ดน้อยหน่ามาบดเมล็ดน้อยหน่าให้เป็นผง แช่ด้วยน้ำที่มีแอลกอฮอล์ 1 ใน 10 ส่วน (10%แอลกอฮอล์) โดยใส่แค่พอท่วมผงเมล็ดน้อยหน่า แช่ทิ้งค้างคืนไว้ 1 คืน รุ่งขึ้นจึงค่อยกรองคั้นเก็บส่วนน้ำ แล้วใช้ 10% แอลกอฮอล์หรือน้ำ เทล้างผงเมล็ดน้อยหน่า อีก 2 ครั้ง ด้วยปริมาตรเท่าเดิม
จากนั้นกรองคั้นส่วนน้ำมารวมกันเป็นสูตรเข้มข้น ใช้ฉีดพ่นเห็บบนตัวสัตว์ได้ทั้งเห็บตัวอ่อนและเห็บตัวแก่ พ่นสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ติดต่อกันอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์
วิธีที่ดีที่สุดให้ฉีด กำจัดเห็บตัวอ่อนเป็นประจำทุกสัปดาห์ เพื่อไม่ให้เห็บที่ขึ้นตัวสัตว์ใหม่นั้นดูดเลือดสุนัข จนเจริญตัวเป็นตัวแก่ โดยเฉพาะในโค เห็บที่ขึ้นใหม่จะเป็นเห็บตัวอ่อนเท่านั้น จึงสามารถเจือจางสารสกัดสูตรเข้มข้นที่ได้ อีก 300 เท่า เพื่อกำจัดเฉพาะตัวอ่อนเห็บอย่างเดียว ที่จะขึ้นใหม่จากพื้น สำหรับเห็บสุนัขต้องใช้สูตรเข้มข้นทุกครั้ง เพราะเห็บที่ขึ้นใหม่ จะเป็นทั้งเห็บตัวอ่อน เห็บตัวกลางวัย และเห็บตัวเต็มวัย ไม่ใช่เฉพาะเห็บตัวอ่อนอย่างเดียวเหมือนของเห็บโค
เมล็ดมันแกว
บดเมล็ดมันแกวให้เป็นผง เติมน้ำ 2 เท่า ของน้ำหนักผงเมล็ดมันแกว ต้มนาน 20 นาที ขณะต้มคอยเติมน้ำให้เท่าเดิม อย่าให้น้ำแห้ง กรองส่วนน้ำมาเก็บไว้ในตู้เย็น 7-20 วัน แล้วจึงนำมาผสมน้ำอีก 220 เท่า ฉีดพ่นเห็บตัวอ่อนบนตัวโค สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง หรือผสมน้ำ 5 เท่า สำหรับฉีดพ่นเห็บตัวแก่ไม่ให้ออกไข่ ทั้งของสุนัขและโคตะไคร้
น้ำมันตะไคร้แกง
โดยการกลั่นใบตะไคร้แกงด้วยไอน้ำ ด้วยชุดกลั่นสำหรับเกษตรกร ใบตะไคร้แกงสด 10 กิโลกรัม กลั่นน้ำมันได้ 40 ซีซี ผสมด้วยแอลกอฮอล์ (95%) 16 เท่า ใช้ฉีดเห็บตัวอ่อนบนตัวโคและสุนัข ถ้าต้องการพ่นเห็บตัวแก่ไม่ให้ออกไข่ด้วย ให้ผสมน้ำมันตะไคร้แกงด้วยแอลกอฮอล์ได้เพียง 4 เท่า ฉีดพ่นบนตัวโคและสุนัขสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ห้ามพ่นเข้าตาสัตว์ เนื่องจากผสมกับแอลกอฮอล์ เพราะแอลกอฮอล์จะทำให้แสบตา หากถูกตาสัตว์จะทำให้กระจกตาขุ่นและเป็นแผลได้ทางที่ดีให้พ่นตาม ซอกมุม หลุม ของพื้นบริเวณที่สัตว์นอนหลับ ซึ่งเห็บโคจะปล่อยตัวลงพื้น 1 ครั้ง เพื่อวางไข่ที่พื้น ส่วนเห็บสุนัข แมว จะปล่อยตัวลงพื้นในขณะสุนัข แมว นอนหลับ เพื่อลอกคราบ 2 ครั้ง (เห็บตัวอ่อนดูดกินเลือดอยู่บนตัวสุนัข 4-5 วัน จะปล่อยตัวลงพื้น คลานหาซอกมุม หลุม ที่ปลอดภัย เพื่อลอกคราบเป็นตัวกลางวัย แล้วขึ้นตัวสุนัขใหม่ดูดกินเลือดอีก 4-5 วัน แล้วปล่อยตัวลงพื้นเพื่อลอกคราบเป็นตัวเต็มวัยขึ้นสุนัข ดูดเลือดและผสมพันธุ์กันแล้วปล่อยตัวลงพื้นอีก 1 ครั้ง เพื่อวางไข่ ประมาณ 2,000 ฟอง ต่อตัว หลังจากนั้น 3 สัปดาห์ ไข่เห็บจะฟักออกมาเป็นตัวเห็บอ่อน คลานขึ้นสุนัขตัวใหม่
น้ำมันตะไคร้หอม
ใช้ชุดเครื่องกลั่นด้วยไอน้ำสำหรับเกษตรกร ได้น้ำมัน 70 ซีซี จากใบตะไคร้หอมสด 10 กิโลกรัม นำน้ำมันตะไคร้หอมที่กลั่นได้มาผสมด้วยแอลกอฮอล์ (95%) 12 เท่า ใช้ฉีดกำจัดเห็บตัวอ่อนบนตัวโคและสุนัข แมว ถ้าต้องการพ่นกำจัดเห็บตัวแก่ ให้ผสมน้ำมันตะไคร้หอมด้วยแอลกอฮอล์ได้เพียง 3 เท่า ฉีดพ่นตามซอกมุม หลุม ของพื้นบริเวณที่สัตว์นอนหลับ สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ถ้าจะพ่นที่ตัวสัตว์ต้องห้ามพ่นเข้าตา เนื่องจากผสมกับแอลกอฮอล์ เช่นเดียวกัน
เปลือกส้มโอ
บีบน้ำมันจากเปลือกผลส้มโอลูกเล็กๆ ที่เกษตรกรเด็ดทิ้ง ในกรณีที่ติดผลอ่อนมากเกินไป หรือบีบน้ำมันจากเปลือกผลส้มที่ซื้อมารับประทาน โดยบีบให้น้ำมันพุ่งใส่ขวดปากกว้าง แล้วดูดเก็บเฉพาะน้ำมันซึ่งลอยอยู่บนส่วนที่เป็นน้ำ นำมาผสมด้วยแอลกอฮอล์ (95%) 10 เท่า ของปริมาตรน้ำมัน ใช้ฉีดพ่นเห็บโค หรือสุนัข แมว ได้ทั้งตัวอ่อนและตัวแก่ ถ้ามีเปลือกผลส้มจำนวนมาก ใช้วิธีการบีบเห็บด้วยไฮโดรลิกหรือโดยการกลั่นด้วยไอน้ำ
มะขามเปียก
เป็นสารสกัดจากพืชที่มีฤทธิ์อ่อนที่สุดใน 6 ชนิดนี้ สกัดด้วยการแช่มะขามเปียกในน้ำ หรือใน 10% แอลกอฮอล์ โดยใช้น้ำหรือ 10% แอลกอฮอล์ในปริมาตร 5 เท่า ของน้ำหนักมะขามเปียก แช่ค้าง 1 คืน แล้วเทเฉพาะสารละลายมาใส่ขวดฉีดพ่นเห็บตัวแก่ ตัวเห็บจะถูกสารสกัดจากน้ำมะขามเปียกกัดเป็นแผลตาย การใช้ 10% แอลกอฮอล์แช่สกัดจะทำให้สารละลายที่สกัดได้ไม่มีเชื้อราขึ้นด้วย
ใบน้อยหนา
ใช้ใบน้อยหน้าสดประมาณ 4 ใบนำมาตำผสมกับเหล้าขาว แล้วเอาน้ำที่ได้มาชโลมให้ทั่วตัวสัตว์เลี้ยง แล้วใช้ผ้าคลุมไว้ประมาณ 10 นาที (อัตราส่วน 1:2) แล้วกรองเอาแต่น้ำมาชโลมให้ทั่วตัวสัตว์เลี้ยง แล้วใช้ผาโพกไว้ประมาณ 1-2 ชั่วโมง และห้ามชโลมยาทิ้งไว้ข้ามคืน ทำเสร็จแล้วให้ล้างทำความสะอาด
13 เรื่องเกี่ยวกับเห็บ-หมัด ที่เราไม่รู้
1. เห็บดูดเลือดพวกเดียวกันเองด้วย
2. เห็บเป็นสัตว์ประเภท “แมง” ดังนั้น มันจึงจัดอยู่ในประเภทเดียวกับ แมงมุมหรือแมงป่อง
3. บนโลกนี้มีเห็บมากกว่า 850 สายพันธุ์
4. เห็บสามารถแพร่เชื้อโรคบางอย่าง เช่น โรคลายม์ (บวมแดง เป็นไข้ ปวดเมื่อย), โรคพยาธิเม็ดเลือด และโรคไข้พุพองเทือกเขาร็อกกี้
5. เจ้าของและสัตว์เลี้ยงสามารถติดต่อโรคกันได้จากการโดนเห็บกัดเพียงครั้งเดียว
6. ไม่ควรใช้นิ้วดึงเห็บออก เพราะคุณอาจดึงตัวมันหลุดออกมาจากหัว ที่ยังฝังอยู่ในผิวหนัง
7. เห็บไม่สามารถบินและกระโดด แต่พวกมันจะคลานแทน ดังนั้นถ้าคุณพบมันบนหัว แสดงว่ามีโอกาสที่จะพบพี่น้องของมันอีกที่ไหนสักแห่งบนร่างกายของคุณที่ต่ำกว่า
8. คุณสามารถซื้อสเปรย์เพอร์เมธริน สำหรับฉีดเสื้อผ้า ป้องกันไม่ให้เห็บหมัดมาเกาะได้
9. เห็บสามารถเติบโตได้ดี แม้ในฤดูหนาว
10. เห็บสามารถฝังตัวได้เกือบทุกที่
11. ถ้าสัตว์เลี้ยงของคุณมีพฤติกรรมแปลกๆ หลังจากออกไปนอกบ้าน เช่น มีอาการชัก, หายใจลำบาก. เซื่องซึม ให้รีบนำไปพบแพทย์ทันที เพราะมีโอกาสไม่น้อยที่จะเกิดจากเห็บ
12. เห็บแต่ละสายพันธุ์มีขนาดที่แตกต่างกัน โดยเห็นจะมีการดำรงชีวิต 4 ชั้นตอน ได้แก่ ไข่, ตัวอ่อน, วัยกระเตาะ และ ผู้ใหญ่
13. การบี้เห็บที่มีไข่เต็มท้องจนเลือดกระจาย ถึงแม้ไข่บางส่วนจะไม่ถูกทำลาย แต่มันก็ไม่สามารถฟักเป็นตัวอ่อนได้ อ่านแล้วขนลุกเลยทีเดียว คนมีสัตว์เลี้ยงคงต้องระวังมากขึ้นนะคะ เพราะอันตรายจากเห็บ มีมากกว่าที่คุณคิดจริงๆ
เมื่อกำจัดเห็บหมัดตามวิธีที่แนะนำกันแล้ว อย่าลืมพาสัตว์เลี้ยงไปหาสัตวแพทย์ใกล้บ้าน เพื่อกำจัดเห็บหมัดให้หมดไป รวมถึงหาทางป้องกันไม่ให้กลับมาใหม่ และอย่าลืมตรวจตราร่างกายทุกครั้งที่ออกไปเดินป่า เพราะคุณก็อาจพาวายร้ายตัวจิ๋วนี้กลับมาได้เช่นกัน เพียงเท่านี้บ้านก็จะปลอดภัยไร้เห็บหมัดแล้วจ้า
เรียบเรียงโดย : Postsara
ขอขอบคุณ : viralnova