เจมส์
คาเมรอน ผู้สร้างหนังระดับตํานานไม่ว่าจะเป็น Terminator, Titanic และ
Avatar ที่คว้ารางวัลจากหลากหลายเวที กับผลงานเลื่องชื่อที่คอหนังต้องเคยดู
ถ้าพูดถึงหนังที่ได้ชื่อว่าเป็นตำนาน
คงต้องมีชื่อหนังจากฝีมือกำกับของ เจมส์ คาเมรอน อยู่ในลิสต์ของใครหลายคน
ทั้ง Terminator ฅนเหล็ก 2029 ที่สุดของหนังแอ็คชั่น-ไซไฟเทคนิคแพรวพราว,
Titanic ไททานิค
โศกนาฏกรรมความรักที่เกิดขึ้นท่ามกลางหายนะบนเรือโดยสารสุดหรู และ Avatar
อวตาร สุดยอดหนังไซไฟที่พาทุกคนไปตะลุยดินแดนใหม่สุดอัศจรรย์เหนือจินตนาการ
แน่นอนว่าทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นเป็นผลงานการสร้างสรรค์สุดตระการตาของ
เจมส์ คาเมรอน (James Cameron) ผู้กำกับฮอลลีวูดมือทอง ฉายา
"ราชาแห่งภาพยนตร์" นั่นเอง ซึ่งในวันนี้กระปุกดอทคอมจะขอพาแฟน ๆ
ไปย้อนดูผลงานที่ผ่านมาของเขากัน
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Titanic
เจมส์ แฟรนซิส คาเมรอน (James
Francis Cameron) เกิดเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 1954
เป็นทั้งผู้กำกับภาพยนตร์ ผู้สร้าง และนักเขียน ชาวแคนาดา
ที่ได้รับการยกย่องอย่างกว้างขวางในแวดวงภาพยนตร์
ได้รับรางวัลมากมายตลอดชีวิตการทำงาน โดย เจมส์ คาเมรอน
เริ่มต้นงานในวงการด้วยการทำงานด้านสเปเชียลเอฟเฟกต์และงานดีไซน์ให้หนังหลายเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็น Battle Beyond the Stars (1980), The Spawning (1981),
Piranha II: The Spawning (1981)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Terminator
ซึ่งผลงานที่ทำให้ชื่อของเขาเป็นที่รู้จักคือการเขียนบทและกำกับหนังแอ็คชั่น-ไซไฟ
The Terminator (1984) ที่ได้นักแสดงอย่าง อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์
และลินดา แฮมิลตัน มาร่วมแสดงด้วย จากนั้นก็ได้กำกับหนังภาคต่อ Aliens
(1986) และ Terminator 2 : Judgment Day (1991) ซึ่งทำให้ชื่อของ เจมส์
คาเมรอน กลายเป็นหนึ่งในผู้กำกับที่ถูกจับตามองมากที่สุดในฮอลลีวูด
1. The Terminator (1984) ฅนเหล็ก 2029
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Terminator
หนังแอ็คชั่น-ไซไฟที่อยู่ในความทรงจำของใครหลายคน
กับเรื่องราวของหุ่นยนต์สังหารรุ่น T-800
ที่เดินทางย้อนเวลาเพื่อสังหารแม่ของ จอห์น คอนเนอร์ ผู้นำกลุ่มต่อต้าน
ขณะที่ฝ่ายมนุษย์ก็ส่งคนย้อนเวลาไปเพื่อขัดขวางหุ่นยนต์สังหารไม่ให้ทำงานได้สำเร็จเช่นกัน
และประโยคที่จำกันได้ดีคงหนีไม่พ้น "I'll be back" ของหุ่นยนต์สังหาร
T-800 ที่อาร์โนลด์ ชวาร์เซเนกเกอร์ เป็นคนพูดไว้นั่นเอง
หนังทำรายได้ทั่วโลกไป 78.47 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 6.4
ล้านดอลลาร์สหรัฐ
2. Terminator 2: Judgment Day (1991) ฅนเหล็ก 2029 วันพิพากษา
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Terminator 2 (T2)
ภาคต่อของ The Terminator
กับเรื่องราวหลังจาก 11 ปี ที่ ซาร่าห์ คอนเนอร์
เอาชีวิตรอดจากการตามล่าของหุ่นสังหาร T-800 มาได้ แต่เธอกลับต้องแยกกับ
จอห์น คอนเนอร์ ลูกชายของเธอ อีกครั้ง
ทำให้จอห์นเติบโตมากับครอบครัวพ่อแม่บุญธรรมแทน ขณะเดียวกันในโลกอนาคต
ทางสกายเน็ตก็ยังคงหวังที่จะฆ่าจอห์นในอดีตอีกครั้ง
จึงส่งหุ่นสังหารรุ่นใหม่ T-1000 ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ที่มีเทคโนโลยีใหม่ล่าสุด
มีความเฉลียวฉลาดและล้ำหน้ากว่า ซึ่งมันถูกส่งมาเพื่อฆ่าจอห์น
ซึ่งในอนาคตเขาจะกลายเป็นผู้นำที่ต่อต้านสกายเน็ต
ทางฝ่ายต่อต้านที่นำโดยจอห์นในอนาคตก็ได้ส่งหุ่น T-800 : Model 101
มาคุ้มครองตัวเองและแม่ในอดีตเช่นกัน
หนังประสบความสำเร็จด้วยรายได้จากทั่วโลกไป 520 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
จากทุนสร้าง 102 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
เรียกว่าเป็นการทวงคืนความยิ่งใหญ่ให้กับทั้งเจมส์ คาเมรอน
และแฟรนไชส์หนังเรื่องนี้
3. Aliens (1986) ฝูงมฤตยูนอกโลก
ภาพจาก : เว็บไซต์ 20th Century Studios
หนังไซไฟเรื่องนี้ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
ปี 1986 ถึง 2 รางวัล ได้แก่
สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยมและสาขานักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม โดย Aliens เอเลี่ยน 2
ฝูงมฤตยูนอกโลก เป็นภาคต่อของหนัง Alien ที่ฉายเมื่อปี 1979
บอกเล่าเรื่องราวของ เอลเลน ริปลีย์
ผู้รอดชีวิตหนึ่งเดียวจากการโจมตีของเอเลี่ยนบนยานของเธอ
เมื่อการสื่อสารของอาณานิคมมนุษย์บนดวงจันทร์ซึ่งลูกเรือของเธอได้พบกับเอเลี่ยนเป็นครั้งแรกขาดหายไป
ริปลีย์ตกลงที่จะกลับไปที่นั่นพร้อมกับกองทหารนาวิกโยธินเพื่อตรวจสอบ
แน่นอนว่า เจมส์ คาเมรอน ได้เปลี่ยนให้ภาคนี้กลายเป็น "สงครามบนอวกาศ"
โดยเพิ่มจำนวนเอเลี่ยนร้ายให้กลายเป็นกองทัพ และแนะนำให้เราได้รู้จักกับ
"ราชินี" ผู้ให้กำเนิดเอเลี่ยนทั้งปวงนั่นเอง หนังทำเงินทั่วโลกไป 85
ดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 18.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
4. The Abyss (1989) ดิ่งขั้วมฤตยู
ภาพจาก : เว็บไซต์ 20th Century Studios
อีกหนึ่งผลงานสุดสร้างสรรค์ที่ว่าด้วยเรื่องราวของการค้นหาเรือดำน้ำนิวเคลียร์ของกองทัพเรือสหรัฐฯ
"มอนทาน่า" ที่เกิดเหตุอับปางลงไปในหุบเหวลึกในมหาสมุทร
และทางการได้ส่งหน่วยรบพิเศษ Seals เข้าไปทำภารกิจเก็บกู้เรือดำน้ำลำนี้
แต่ไม่นานนักพวกเขาก็ต้องพบกับสิ่งหนึ่งที่ทำให้เรือดำน้ำจมลงไปใต้ทะเล
มันเป็นสิ่งมีชีวิตจากต่างดาวทรงภูมิปัญญาที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนในโลก
โดยที่พวกเขาไม่มีทางรู้ได้เลยว่าพวกมันมาอยู่ที่โลกของเรานานมาแล้วด้วย
หนังเรื่องนี้ทำเงินทั่วโลกไป 90 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 70
ล้านดอลลาร์สหรัฐ
5. True Lies (1994) คนเหล็ก ผ่านิวเคลียร์
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก True Lies
งานรีเมกจากหนังแนวสายลับ
แอ็คชั่น คอมเมดี้ ของฝรั่งเศส เรื่อง La Totale!
ที่ว่าด้วยเรื่องราวของสายลับพิเศษ แฮรี่ ทาสเกอร์
สายลับมากความสามารถที่ทำงานเป็นเซลส์แมนเพื่อปิดบังตัวตนที่แท้จริงจากคนรอบข้าง
รวมทั้งภรรยาของเขาด้วย
ในขณะที่กำลังสืบหาความจริงเกี่ยวกับอาวุธนิวเคลียร์ที่ถูกผู้ก่อการร้ายขโมยไป
เขาก็พบว่าลูกและเมียของเขาถูกกลุ่มผู้ก่อการร้ายจับตัวไปเป็นตัวประกัน
หนังทำเงินทั่วโลกไป 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากทุนสร้าง 115
ล้านดอลลาร์สหรัฐ และได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์
สาขาเทคนิคพิเศษยอดเยี่ยม อีกด้วย
6. Titanic (1997) ไททานิค
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Titanic
หนังรักอมตะนิรันดร์กาลที่พูดถึงเรื่องราวโศกนาฏกรรมความรักของชายหนุ่ม-หญิงสาวต่างชนชั้น
ที่มาพบรักกันบนเรือเดินสมุทรยักษ์ R.M.S. Titanic
หนังสามารถเก็บรายละเอียดของเรือได้อย่างยอดเยี่ยม
เมื่อรวมกับเคมีของนักแสดงนำทั้งสองอย่าง ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ และเคต
วินสเล็ต ที่เข้ากัน ทำให้หนังเรื่องนี้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น
หลายฉากยังคงตราตรึงอยู่ในความทรงจำของผู้ชม
ไม่ว่าจะเป็นฉากเต้นรำในปาร์ตี้ชั้นประหยัด
ฉากยืนกางแขนอยู่บนหัวเรือของสองพระนาง
หรือฉากที่แจ็ควาดรูปโรสพร้อมสร้อยหัวใจแห่งมหาสมุทร
ก็สร้างความประทับใจได้ไม่ลืม
ท่ามกลางจุดจบที่แสนเศร้าก็ยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่ยังคงประทับอยู่ในใจคนดูจนถึงทุกวันนี้
คือ เพลงประกอบภาพยนตร์ My Heart will go on โดยเสียงร้องของ เซลีน ดิออน
ที่ส่งผลให้กลายเป็นเพลงรักอมตะตามหนังไปติด ๆ
หนังเรียกน้ำตาให้กับผู้คนทั่วโลก
จนส่งผลให้รายได้ทั่วโลกของหนังเรื่องนี้พุ่งสูงไปถึง 2,194
ล้านดอลลาร์สหรัฐ และยังกวาดรางวัลออสการ์ไปถึง 11 รางวัล
ถือเป็นหนังที่พลิกชีวิต เจมส์ คาเมรอน อย่างแท้จริง
7. Avatar (2009) อวตาร
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Avatar
ผลงานชิ้นสำคัญของผู้กำกับ เจมส์
คาเมรอน ที่กวาดรายได้อย่างมหาศาลเมื่อปี 2009
ด้วยเทคนิคด้านภาพสุดตระการตา ทำให้ Avatar
สามารถทำรายได้ทะลุหลักพันล้านในเวลาเพียง 19 วัน แถมครองอันดับ 1
หนังทำเงินสูงสุดตลอดกาลมาจนถึงทุกวันนี้ (ข้อมูลจาก BoxOfficeMojo.com)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Avatar
โดย Avatar
ว่าด้วยเรื่องราวความรักของ เจค อดีตนาวิกโยธินที่เป็นอัมพาตครึ่งตัวล่าง
ซึ่งได้รับภารกิจในการเปลี่ยนร่างกายให้เป็น ชาวนาวี ชนเผ่าต่างดาวสีฟ้า
ที่อยู่บนดาวแพนโดร่า จากนั้นเขาต้องเข้าไปแทรกซึมในกลุ่มชาวนาวี
ซึ่งมีเป้าหมายหลักเพื่อให้เหล่ามนุษย์ได้เข้าไปเก็บแร่ที่เป็นทรัพยากรมีค่าของดาวได้
แต่แล้วเมื่อเจคเริ่มผูกพันกับชาวนาวีมากขึ้น เขาก็เริ่มที่จะเปลี่ยนใจ
ละทิ้งคำสั่งเดิมและหันมาปกป้องพวกเขาแทน หนังกวาดไปถึง 3
รางวัลใหญ่จากเวทีออสการ์ ได้แก่ กำกับภาพยนตร์ยอดเยี่ยม (Best
Cinematography) การออกแบบการผลิต (Production Design) และเทคนิคสมจริง
(Visual Effects)
8. Avatar: The Way of Water (2022) อวตาร: วิถีแห่งสายน้ำ
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Avatar
หนังไซไฟภาคต่อที่คอหนังทั่วโลกรอคอยกันมาอย่างยาวนาน
กับเรื่องราว 10 ปี หลังจากเหตุการณ์ในหนัง Avatar ภาคแรก เมื่อ เจค ซัลลี
อดีตนาวิกโยธินในร่างชาวนาวี พบรักกับ เนย์ทีรี
และสร้างครอบครัวอยู่บนดาวแพนโดร่า โดยทั้งคู่มีลูกด้วยกัน 3 คน
และลูกบุญธรรมครึ่งคนครึ่งอวตารอีก 2 คน
ทั้งครอบครัวต้องเผชิญหน้ากับภัยคุกคามจากศัตรูเก่าอย่าง พันเอก ไมล์
ควอริตช์ และเป้าหมายใหม่ที่เพิ่มเติมจากการขุดหาแร่
ไปสู่การล่าอาณานิคมเพื่อให้มนุษย์ตั้งรกรากอาศัย
เกิดเป็นการรุกรานพื้นที่ของชาวนาวีบนดาวแพนโดร่าที่ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย
ๆ
พวกเขาก็เลยต้องอพยพไปอยู่ในดินแดนแห่งสายน้ำร่วมกับชนเผ่าทะเลที่เรียกว่า
เม็ตคายีนา ต้องปรับตัวให้ได้กับวิถีแห่งสายน้ำ
และรับมือกับภัยคุกคามที่อันตรายยิ่งกว่าเดิม
หนังเข้าฉายอาทิตย์แรกก็ทำรายได้ทั่วโลกไป 441 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
และยังอยู่ในโปรแกรมฉาย ซึ่งคาดว่าคงกอบโกยรายได้ไปอีกเพียบ
โดยหนังเตรียมสานต่อไปจนถึงภาค 3 4 5 (อ่านเพิ่มเติม : Avatar 2 เรื่องน่ารู้ของภาคต่อฟอร์มยักษ์ ที่สานต่อไปถึงภาค 3 4 5 !)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Avatar
แม้จะมีหนังที่ เจมส์
คาเมรอน กำกับไม่มากนัก
แต่ผลงานของเขานั้นล้วนแล้วแต่ประสบความสำเร็จอย่างสูง
ทั้งจากรายได้และคำวิจารณ์
รวมถึงหนังที่รับหน้าที่เป็นโปรดิวเซอร์และคนเขียนบทอย่าง Point Break
(1991), Terminator 3: Rise of the Machines (2003), Sanctum (2011),
Terminator: Dark Fate (2019) และ Alita: Battle Angel (2019)
ก็ได้รับความนิยม
ซึ่งทำให้เราพูดได้อย่างเต็มปากว่าความสำเร็จของเขาเกิดขึ้นจากทั้งความพยายาม
การเรียนรู้ และความทุ่มเท ให้กับทุกชิ้นงานนั่นเอง
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก Terminator 2 (T2)
ภาพจาก : เฟซบุ๊ก The Terminator