ผลไม้กล้วยที่โดยส่วนมากแล้วเวลาเราซื้อมานั้นก็มักจะซื้อมาเป็นหวีๆ จำนวนหลายลูก เวลาที่ซื้อมาก็มักจะเลือกลูกที่เขียวเขียวเพราะหากเราซื้อเป็นกล้วยเหลืองมาเลยไม่กี่วันกล้วยก็จะเ ล ะทานไม่ทัน กล้วยเขียวๆมาแล้วนำมาบ่มเก็บเอาไว้ทานได้
วันนี้เราได้นำวิธีในการบ่มกล้วยให้มีความสุกกำลังดีและให้ได้สีสวยที่น่าทานมากๆมาฝากกันด้วย กล้วยสุกแล้วก็จะสามารถนำไปทำเป็นขนม หรือทำข า ยเป็นหวีก็สุกกำลังน่าทานเลย
บ่มกล้วยในถุงกระดาษ
ในวิธีนี้นั้นจะเหมาะสำหรับคนที่ต้องการให้กล้วยสุกเฉพาะลูกที่เราจะทานเท่านั้น โดยจะนำถุงกระดาษจำนวน 1 ใบ ใส่กล้วยที่ต้องการให้สุกเข้าไปในถุงแล้วให้ใส่มะเขือเทศและแอปเปิลที่สุกพร้อมเข้าไปในถุงด้วย ม้วนพับถุงกระดาษให้สนิท วางเอาไว้บริเวณที่มีอุณหภูมิสูงระยะเวลา 1-2 วัน ก็จะสุกพร้อมที่จะนำมากินกันได้
เพราะว่าในแอปเปิ้ลหรือมะเขือเทศสุกมีก๊ า ซเอ ทิ ลี น ซึ่งเป็นก๊ า ซที่ผลไม้สร้างขึ้นมาในขณะที่กำลังสุก เมื่อก๊ า ซเอ ทิ ลี น จากมะเขือเทศหรือแอปเปิ้ลอยู่ในถุงกระดาษ ซึ่งก็จะทำให้กล้วยที่อยู่ในถุงนั้นสุกได้เร็ว และการที่นำไปวางเอาไว้ในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิสูง ก็จะเป็นการช่วย เ ร่ งการสร้างก๊ า ซทำให้ผลไม้สุกได้เร็วขึ้นนั้นเอง
บ่มกล้วยด้วยกระสอบป่าน
กระสอบป่านจำนวน 3-4 ใบ นำมาวางทับซ้อนๆกันแล้วให้นำกล้วย ดิ บเป็นวิธีที่ต้องการจะบ่มนั้นใส่ลงไปวางเรียงไว้ในกระสอบจนเต็ม จากนั้นทำการมัดปิดปากกระสอบให้แน่น นำไปตากแดดเอาไว้ 2 วัน จะได้ กล้วยสุกที่มีรสชาติดีและมีผิวกล้วยที่ดูน่าทาน
บ่มกล้วยในโอ่ง
วิธีนี้จะใช้โอ่งขนาดเล็กจำนวน 1 ใบ ใส่ทรายลงไปในโอ่งหรือจะใส่เป็นใบกล้วยแทนทรายก็ได้เช่นกัน เพื่อเป็นการ ป้ อ ง กันผลกล้วยช้ำนั่นเอง จากนั้นให้เ ด็ ด กล้วยออกมาเป็นลูกๆ วางเรียงลงไปในโอ่ง เหลือพื้นที่กลางโอ่งเอาไว้เล็กน้อย เสร็จแล้วจะทำตามจุดธูปปักเอาไว้ตรงกลาง ปิดฝาให้สนิท 2-3 วันก็จะสุกได้ที่เนื้อสวยนำมาทานได้อย่างอร่อย
บ่มกล้วยด้วยใบจามจุรี
ให้ทำการปูพื้นที่โอ่งด้วยใบพร้อมกับก้านของต้นจามจุรี แล้วให้ใส่เครือกล้วยลงไป เมื่อใส่จนเต็มแล้วเอาใบจามจุรีมาวางทับเอาไว้ด้านบนจนมิด กระสอบป่าน คุมทับเอาไว้ เชือกฟางมามัดหุ้มกระสอบป่านกับตัวปากโอ่งให้สนิท ระยะเวลา 3วัน กล้วยก็จะสุกและมีความน่าทานมากๆ
บ่มกล้วยด้วยเตาอบ
ในวิธีนี้นั้นเราจะใช้กับกล้วยที่ใกล้จะสุกดีแล้ว จะไม่ใช่กล้วยที่ยังเขียวอยู่ วิธีการก็คือ เด็ด กล้วยเป็นลูกๆ วางเรียงในถาด จากนั้นนำใส่เตาอบได้เลย ใช้อุณหภูมิประมาณ 160 องศา อบอยู่เรื่อยๆและหมั่นเช็คดู ด้วยว่ากล้วยมีความสุกจนพอใจแล้วหรือยัง
จากนั้นก็ให้นำออกมา จากเตา แช่เอาไว้ในน้ำแข็ง เพื่อที่จะไม่ให้กล้วยสุกเ ล ะจนเกินไป เท่านี้เราก็นำกล้วยมาทานกันได้
ขอบคุณข้อมูลจาก : tipsza