Home »
Uncategories »
อย่ามองข้าม สัญญาณไฟเตือนบนหน้าปัด 9 อย่างที่ผู้ใช้รถควรทราบ
อย่ามองข้าม สัญญาณไฟเตือนบนหน้าปัด 9 อย่างที่ผู้ใช้รถควรทราบ
อย่ามองข้าม สัญญาณไฟเตือนบนหน้าปัด 9 อย่างที่ผู้ใช้รถควรทราบ
เวลาที่ขับรถเคยสังเกตไหมว่าจะมีภาพสัญญาณไฟต่าง ๆ มากมายอยู่บนหน้าปัด
จนบางทีเรามองมันว่าเป็นปกติ
แต่ว่าในบางสีมันก็อาจจะไม่ปกติและควรรีบตรวจสอบ ซ่อมให้ดีก่อนจะออกเดินทาง
หรือควรหยุดรถทันทีหากสัญญาณบางอย่างเตือนขึ้นมา
เอาล่ะวันนี้เราจะมาพูดถึง 9 สัญญาณไฟเตือนบนหน้าปัด ที่ทุกคนจะต้องรู้
อย่างน้อยจะได้รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้นจุดไหนกับรถของตนเองบ้าง
เอาไปซ่อมจะได้ไม่โดนอู่เอาเปรียบด้วยเหมือนกัน
สีของสัญญาณไฟหน้าปัดคืออะไร
ในทุกสัญญาณไฟหน้าปัดนั้นจะมี 3 สี ตามระดับคว า ม รุ น แ ร ง เริ่มจาก
เขียว เหลือง และ แดง
ซึ่งถ้ามันเริ่มเตือนสีแดงแล้วคือจะต้องรีบตรวจสอบด่วนทันทีเลย
ความหมายของไฟแต่ละสีมีดังนี้
1 ไฟสีเขียว ปกติดี
2 ไฟเหลือง/ส้ม เตือนว่าต้องระวังในการใช้งานในจุดนั้น ๆ
3 ไฟแดง ควรรีบตรวจสอบโดนด่วน อย่ามองผ่านไป เพราะอาจจะเกิดอะไรขึ้นก็ได้
พอทราบถึงสีของสัญญาณไฟกันแล้วก็มาดูในรูปลักษณะของสัญลักษณ์แต่ละภาพกันว่าหมายความว่าอย่างไร
ภาพแบบนี้หมายถึงจุดไหนของรถ จะได้รู้ว่าควรแก้ไขอะไรอย่างไร
1 ภาพตู้จ่ายน้ำมันมีจุดด้านล่าง จะเป็นเหมือนตัวแจ้งเตือนน้ำมันหมดแต่ไม่ใช่นะ แต่มันคือตัวกรองน้ำมัน
หากมีการเตือนที่ภาพตู้จ่ายน้ำมันแบบในภาพนี้ขึ้นมาแปลว่าตัวกรองน้ำกำลังมีปัญหาอะไรบางอย่าง
อาจมีการผสมน้ำ อาจจะตัน
ก็ควรเอารถเข้าอู่/ศูนย์บริการเพื่อตรวจสอบได้แล้วจะได้เช็คและจัดการให้ดีพร้อมใช้เหมือนเดิม
2 ภาพตู้จ่ายน้ำมัน ใช้เตือนระดับน้ำมัน (สังเกตดูนะมันต่างกันกับข้อแรกอยู่)
เวลามีไฟเตือนในสัญญาณนี้แปลว่าน้ำมัน ถ้าเหลืองก็ใกล้จะหมด ถ้าแดงก็ ค ง
แ ย่ แล้วหละ ขับไม่นานคงได้ลงเข็นกันแน่นอน
แต่ว่าก่อนน้ำมันจะหมดก็ยังขับไปได้อีกกว่า 50 – 100 กิโลเมตรเลยทีเดียว
ก็แล้วแต่รุ่นด้วยนะ บางรุ่นมี 3 เหลี่ยมชื่อ ซ้าย หรือ ขวา ด้วย
นั่นแปลว่า บอกถึงฝั่งของฝาถังน้ำมันอยู่ด้านไหน
เวลาเข้าปั๊มจะได้จอดเข้าถูกทาง
3 ภาพไฟรูปเครื่องยนต์
หากเห็นสัญญาณนี้เตือนขึ้นมาก็มีหลายสาเหตุด้วยกัน
ถ้ามันเตือนแล้วไม่หายก็แปลว่าเครื่องยนต์มีปัญหาแล้ว
จะต้องรีบเอาเข้าศูนย์โดยด่วนที่สุดเพื่อเช็คอาการให้ละเอียดเลย
4 ภาพแบตเตอรี่ ขั้ว + – สำคัญมากห้ามปล่อยผ่าน
เนื่องจากอาจทำให้เครื่องยนต์ดับได้เลย สตาร์ทก็ไม่ติดอีกด้วย
หากเจอสัญญาณนี้ขึ้นมาแปลว่าระบบไฟฟ้า และ แบตเตอรี่รถมีปัญหาแล้ว
เพราะไฟไม่ถูกจ่ายเข้าระบบรถ ทำให้รถดับนั่นเอง จะต้องรีบเช็คโดยด่วนเลย
5 ภาพสัญญาณ ABS
ปล่อยไม่ได้เช่นกัน เพราะมันหมายถึงระบบเบรก ABS
กำลังมีปัญหาแล้วไม่ควรใช้งานรถ จะต้องรีบนำเข้าอู่ในทันที
เพราะหากต้องเบรกกะทันหันขึ้นมาระบบเบรก ABS ไม่ทำงานอาจจะแย่เอา
6 ภาพไฟเครื่องหมายตกใจ/วงกลม/เบรก
ไฟแบบนี้ก็อาจจะเจอเมื่อดึงหรือลดเบรกมือแบบไม่สุด
ทำให้ไฟแบบนี้เตือนขึ้นมา
แต่ถ้าหากจัดการเบรกมือแล้วไม่หายก็แปลว่าระบบเบรกปกตินั้นมีปัญหา
บางรุ่นอาจจะแยกเบรกมือกับเบรกปกติออกจากกันชัดเจน
แต่ถ้าไม่แน่ใจรีบนำรถไปเช็คเลย
7 ภาพสัญญาณป ร อ ทมีขีดระดับน้ำ
เป็นการเตือนระบบระบายความร้อนของเครื่องยนต์
หากมันเตือนขึ้นมาเป็นสีส้ม สีแดงก็ให้จัดการเลย เพราะ ไม่พัดลม
ก็หม้อน้ำไม่ทำงาน หรืออะไรสักอย่างรั่ว
จะต้องรีบนำรถไปเช็คไม่ควรใช้งานต่อเพราะรถจะพังเอาได้
8 ภาพสัญญาณถุงลมนิรภัย
ไม่ต้องตกใจหากเห็นไฟนี้ขึ้นมา เพราะไม่เกิน 5 วินาทีก็จะหายไป
เป็นการเช็คระบบถุงลมนิรภัยของรถ แต่ถ้าผ่านไปนานแล้วไม่หาย
ก็แปลว่าถุงลมนิรภัยมีปัญหาหาควรนำรถไปเช็ค
9 ภาพสัญญาณตะเกียงน้ำมัน มีน้ำหยดด้วย
บ่งบอกถึงน้ำมันในเครื่องยนต์มีระดับต่ำเกินไป
จนไปหล่อเลี้ยงเครื่องยนต์ไม่ได้ ไม่ควรฝืนใช้รถต่อนะ
แต่ถ้าเช็คแล้วน้ำมันปกติดีแปลว่า หั ว ปั๊มจ่ายน้ำมันมีปัญหา
ทำให้ส่งน้ำมันไปไม่ได้ ฉะนั้นจะแบบไหนก็ควรเอารถเข้าไปเช็ค
ซึ่งบางรุ่นอาจจะมีสัญญาณไฟเตือนเยอะกว่านี้
ก่อนจะขับรถอย่าลืมศึกษาการใช้งานระบบต่าง ๆ ของตัวรถให้เข้าใจ เผื่อเกิดเ ห
ตุ ฉุ ก เ ฉิ นจะได้ช่วยตัวเองได้และช่วยรถได้
โดยเฉพาะไฟที่เตือนเป็นสีแดงแล้ว
แปลว่าจะมัวนิ่งฝืนใช้มันไปต่อแบบนั้นมีแต่พังกับพัง
เรียบเรียงโดย Krustory
ขอขอบคุณข้อมูลจาก b i t c o r e t e c h