Home »
Uncategories »
ข้อคิดล้ำค่า นักธุรกิจไทยที่บรรลุธรรมบนเตียงคนไข้ขณะป่วยเป็นมะเร็ง(สละเวลาอ่านเถิดดีมาก)
ข้อคิดล้ำค่า นักธุรกิจไทยที่บรรลุธรรมบนเตียงคนไข้ขณะป่วยเป็นมะเร็ง(สละเวลาอ่านเถิดดีมาก)
มีนักธุรกิจชื่อดังคนหนึ่งของเมืองไทย ให้สัมภาษณ์กับนิตยสารฉบับหนึ่ง เขาล่าว่า..
ตลอดระยะเวลาที่ทำธุรกิจมาทั้งชีวิต เขามีเงินมากพอที่จะตระเวนซื้อบ้าน
ตั้งแต่เชียงราย ถึง สุไหงโกลก(เหนือสุดจรดใต้สุด) มีบ้านเกิน 10 หลัง
แต่ในหนึ่งปี เขากลับได้นอนไม่ครบทุกหลังเลย ส่วนคนที่ได้นอนครบเกือบทุกหลังคือ คนรับใช้ของเขา
คนรับใช้ได้นอนคฤหาสน์หรูที่เชียงราย เชียงใหม่ เลย ขอนแก่น ภูเก็ต และหัวหิน
คนรับใช้ทุกคนอยู่อย่างมีความสุขท่ามกลางธรรมชาติ ต้นไม้ น้ำ
และความสงบภายในบริเวรณบ้าน แต่เศรษฐีที่เป็นเจ้านายกลับทำงานหนักงกๆ
อยู่ในกรุงเทพฯ
แต่ละวันเจอรถติดไม่ต่ำกว่า 3-4 ชั่วโมง และอาศัยอยู่ในคอนโดรังหนู
ขนาดไม่ได้ครึ่งหนึ่งของบ้านพักตากอากาศที่เขาซื้อเลย
นี่คือชีวิตของคนกรุงที่เขาต้องเจออยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
ขณะที่ชีวิตของเขากำลังไปได้ดี เขาก็เริ่มป่วยด้วยโรคสำหรับคนรวย นั่นคือ โรคมะเร็ง ในที่สุดเขาก็ต้องรับการบำบัดด้วยการฉายคีโมแล้วผมก็ร่วง
เขามองเห็นสภาพของตัวเองนอนอยู่บนเตียงรู้สึกตัวว่า ใกล้จะเป็นซอมบี้เข้าไปทุกที ไม่นานก็เกิดอาการบรรลุธรรมน้อยๆ ขึ้นมาบนเตียงว่า
แท้ที่จริงแล้ว ชีวิตนั้นต้องการที่นอนเพียงพอแค่รองรับแผ่นหลังได้เท่านั้น เงินก็อยู่ในธนาคาร ชื่อเสียงก็อยู่กับสายลม
ในช่วงแรกๆ ที่เขาป่วยก็มีคนทยอยมาเยี่ยม
แต่ครั้นเริ่มป่วยหนักก็ไม่มีใครมาเยี่ยมเลย ไม่มีคนอยากเห็นสภาพของเขาแล้ว
และก็ไม่อยากให้ใครมาเยี่ยมเพื่อเห็นเขาด้วย
เขาตัดใจว่าจะขอตายไปกับสภาพที่ไม่อยากให้ใครเห็น
วันหนึ่งตื่นขึ้นมาก็เกิดอาการสังเวชตัวเองว่า
ชีวิตเราที่จริงนั้นไม่ต้องการอะไรมากเลย เราต้องการสิ่งพื้นฐานที่สุดนั่นก็คือ ขอให้ผมกลับมาดำเหมือนเดิม ขอให้เคี้ยวข้าวและกลืนลงคอได้โดยไม่เจ็บขอแค่อยากเข้าห้องน้ำก็เดินเข้าได้โดยไม่มีคนคอยประคอง
และขอให้นอนลงไปบนเตียงเต็มแผ่นหลังโดยไม่ต้องร้องโอดโอยเจ็บปวดแทบล้มประดาตาย
เขาเริ่มตระหนักได้ว่า แท้จริงแล้วชีวิตไม่ต้องการอะไรมาก
เขาตัดสินใจสละทุกอย่างพอปล่อยลงปลงได้ ต่อมาก็หายป่วย หนึ่งในล้านคนจะเป็นอย่างนี้คนหนึ่ง
เมื่อออกมาจากโรงพยาบาลแล้วเขาก็ขายบ้านทุกหลังที่มีตั้งแต่เหนือจรดใต้ เขาบอกว่าป่วยใหญ่คราวนี้ผมรู้เลยว่าสิ่งที่จำเป็นที่สุดของชีวิตคืออะไร และหันหลังให้ชีวิตความเป็นนักธุรกิจอย่างสิ้นเชิง
ติดสินใจไปใช้ชีวิตเรียบง่ายในต่างจังหวัด ทำเกษตรอินทรีย์
บอกลาความหรูหรา เกียรติยศ บอกลาชื่อเสียง ลาภยศ ทรัพย์สิน
อำนาจที่คนประเคนให้ทั้งหมด
เมื่อความตายมาถึงสิ่งเหล่านี้ทั้งหลายกลับช่วยอะไรไม่ได้เลย ทุกวันนี้เขาอยู่กับสิ่งที่มีความสุข เป็นชีวิตที่แสนจะเรียบง่ายไม่ต้องการอะไรมากมาย
นี่คือตัวอย่างของคนที่ค้นพบคุณค่าของชีวิตที่แท้จริงเมื่อค้นพบอย่างนี้
เรื่องที่อยู่เขาไม่สะสมอีกต่อไป สิ่งที่สะสมตอนนี้คือ สุขภาพ
เขาบอกว่าตอนที่ผมป่วย ผมลืมตาขึ้นมาเห็นแต่พยาบาล ญาติคนหนึ่งก็ไม่เห็น
ญาติมาเยี่ยมแล้วก็หายไป
บอกว่าติดงานเขาลุกขึ้นมาบนเตียงแล้วเขียนไดอะรี่ว่า
แม้ตอนที่ผมจะตาย ญาติของผมก็ยังมีแก่ใจว่าติดงาน สงสัยจะว่างตอนผมตายแล้ว นี่คือสิ่งที่เขาสะเทือนใจที่สุด
เขามารู้สัจธรรมบนเตียงนอนในขณะที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลนี่เอง
และได้รู้ว่า
ชีวิตนี้ต้องใช้ให้ง่ายที่สุดไม่อย่างนั้นจะไม่เหลือวันเวลาแห่งความสุขสำหรับตัวเองเลย
ขอบพระคุณบทความดีๆ ให้แง่คิดล้ำค่าจาก : หนังสือเคล็ดลับความสุข โดย ท่านว.วชิรเมธี
ขอบคุณข้อมูลจาก :rugyim.com