เคล็ดลับการปลูกผักสวนครัว สำหรับมือใหม่ ปลูกแบบนี้ได้กินแน่นอน
มีสามชิกพันทิพท่านหนึ่งโพสถามเรื่องการปลูกผักสวนครัว แต่ตตนเองเป็นมือใหม่ จึงอยากทราบว่าจะเริ่มต้นอย่างไรต่างก็มีคอมเมนต์ในโพสนี้เล่าถึงวิธีต่างๆเยอะมาก สำหรับเนื้อหานี้เราจึงได้สรุปข้อมูลในคอมเมนต์ และ นำเอาเคล็ดลับการปลูกผักสวนครัว ที่หลายๆคนยังไม่รู้มาให้ได้ดูกัน รวมทั้งเทคนิคการปลูกพืชแต่ละฤดู และ สูตรบำรุงพืช
สำหรับการทำแปลงปลูกผักสวนครัว หรือ ผักกินใบ หาถาดสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ มีความลึกประมาณ 20-30 ซม. มีรูระบายน้ำที่ด้านล่างถาด นำกากมะพร้าวรองไว้ด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้ดินไหลออก ผสมดินโดยใช้ปุ๋ยขี้วัว หรือ ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยคอก 1 ส่วน ต่อดิน 2 ส่วน คลุกให้เข้ากันพรมน้ำนิดหน่อยเพื่อทำเป้นดินปลูก ขึงแสลนไว้ด้านบน เพราะ ผักสวนครัวไม่ต้องการแสงแดดโดยตรง ใช้เพียงแสงแดดรำไรก็พอ
ไอเดียแปลงปลูกผักสลัดจากขวดน้ำเก่า ใช้ดินปลูก 4 ส่วน ผสมมูลไส้เดือน 1 ส่วน ใส่ในขวดน้ำพลาสติก ล้อมรอบด้วยอิฐบล๊อก เป็นแปลงปลูกแบบง่ายๆ
เคล็ดลับการปลูกผักสวนครัวแต่ละชนิด
วิธีปลูกกะเพรา
สามารถปลูกจากเมล็ด หรือ ปักชำจากกิ่งที่ซื้อมาทำอาหารก็ได้
พอต้นโตออกดอกเป็นเมล็ด เมล็ดที่ร่วงหล่นลงพื้นก็จะงอกเป็นต้นใหม่ได้อีก
หลังเพาะประมาณ 7 – 10 วัน
เมล็ดเริ่มงอกให้รดน้ำอย่างเพียงพอและสม่ำเสมอทุกวัน
เคล็ดลับที่จะทำให้ต้นกะเพราใบดก คือ เมื่อออกดอกให้เด็ดดอกทิ้ง
ต้นกระเพราเจริญเติบโตได้ดีในสภาพอากาศร้อนชื้นแบบบ้านเรา
วิธีปลูกพริกขี้หนู
พริกขี้หนูนั้นปลูกง่าย สามารถปลูกได้ในดินแทบทุกแบบ
แต่ดินที่เหมาะสมที่สุดคือดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี
พริกขี้หนูเป็นพืชที่มีอายุเก็บเกี่ยวได้หลังย้ายกล้าลงปลูก 60 – 90 วัน
การเก็บเกี่ยวควรเก็บทุก 5 – 7 วันโดยใช้วิธีเด็ดทีละผล อย่าเก็บทั้งช่อ
เพราะผลแต่ละช่อแก่ไม่พร้อมกัน พริกขี้หนูสามารถเก็บได้ยาวนานถึง 6 เดือน
วิธีปลูกต้นหอม
วิธีการปลูกต้นหอมสามารถเพาะจากเมล็ดได้ แต่อาจเติบโตไม่ทันใจ
และผลผลิตไม่ค่อยสวยงาม วิธีการที่ง่ายที่สุดคือเปิดตู้เย็น
และตัดเอารากของต้นหอมมาปักลงดิน ปกติแล้วต้นหอมนั้นชอบดินร่วน
ชอบอากาศชุ่มชื้น ได้แสงแดดเต็มที่ตลอดวันชอบอากาศเย็น
หอมแบ่งเก็บเกี่ยวเมื่ออายุประมาณ 40-50 วัน
หรือถ้าจะให้ง่ายกว่านั้นนำหอมแดงที่ใช้ทำอาหารมาฝังลงดินรดน้ำไม่กี่วันก็ได้ต้นหอมให้ตัดไปใส่ไข่เจียวแบบง่ายๆแล้ว
วิธีปลูกมะเขือเทศ
มะเขือเทศชอบดินร่วนปนทราย ถ้าได้ดินชนิดนี้จะเจริญเติบโตดีกว่าปกติ
เพราะมีอินทรียวัตถุสูง ระบายน้ำและอากาศดี แต่ในสภาพที่ชื้นแฉะ
จะทำให้รากขาดออกซิเจน ทำให้ชะงักการเจริญเติบโต ดังนั้นหากมีน้ำขังหลายวัน
จะต้องระบายน้ำออก ที่สำคัญคือต้องไม่ปลูกซ้ำในแปลงเดียวกันนานหลายปี
เพราะจะเกิดการสะสมของโรค ซึ่งยากต่อการป้องกันกำจัด
และด้วยคุณสมบัติของการเป็นไม้เลื้อย
การปลูกมะเขือเทศยังทำให้ได้สังเกตการเติบโต
และการเคลื่อนไหวของต้นไม้จากการขดเลื้อยไปมาบนราง
หรือไม้ค้ำที่นำมาปักเป็นทางให้มะเขือเทศอีกด้วย
วิธีปลูกผักบุ้ง
ผักบุ้งที่นิยมปลูกในดินคือผักบุ้งจีน
โดยใช้วิธีหว่านเมล็ดลงแปลงได้โดยตรง กระซิบนิดหนึ่งว่า ผักบุ้งจีนนี้เพียง
48 ชั่วโมงหลังจากหว่านเมล็ด เราก็จะได้ตื่นเต้นกับเมล็ดเล็กๆ
ที่เริ่มงอกให้เห็นใบอ่อนอย่างรวดเร็ว ผักบุ้งเป็นไม้ล้มลุกที่ปลูกง่าย
และยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงสายตา
บรรเทาอาการระคายเคืองจากโรคกระเพาะอาหารอักเสบได้ด้วย
วิธีเพาะถั่วงอก
แช่เมล็ดถั่วในน้ำอุ่น อุณหภูมิประมาณ 50 – 60 องศาเซลเซียส
หรือผสมน้ำเดือดจัด 1 ส่วน กับน้ำเย็น 1 ส่วน
ตักเมล็ดที่ลอยทิ้งไปแช่ทิ้งไว้จนน้ำเย็น แล้วแช่ต่อไปนาน 6 – 8 ชั่วโมง
วิธีนี้นอกจากจะฆ่าเชื้อโรคแล้ว ยังกระตุ้นให้ถั่วงอกงอกได้เร็วขึ้นด้วย
ส่วนภาชนะที่ใช้เพาะควรมีสีทึบเพื่อป้องกันแสงสว่าง
มีรูระบายน้ำทั้งด้านล่างและด้านข้าง ขนาดของรูจะต้องเล็กกว่าเมล็ดถั่ว
และภาชนะเพาะจะต้องสะอาดเสมอ หรือ สามารถเพาะในขวดพลาสติกเหลือใช้แบบง่ายๆ
ได้อีกด้วยผักสวนครัวเหล่านี้ล้วนเป็นพืชเศรษฐกิจที่มีความต้องการของตลาดอยู่ตลอดเวลา หากเราปลูกไว้ทานเองที่บ้าน โดยใช้แนวคิดที่ว่าปลูกผักปลอดสารพิษไว้ทานเอง ถ้าเหลือก็เก็บขายเป็นผลพลอยได้ สร้างรายได้ สร้างอาชีพเสริม นอกจากจะประหยัดค่าใช้จ่ายในการซื้อผักมาทำอาหารแล้ว ยังสามารถนำไปขายสร้างรายได้เสริมได้อีกด้วย
เทคนิคการปลูกผักสวนครัวตามฤดูกาล
การปลูกผักในช่วงฤดูฝนเป็นช่วงที่พืชผักหลายชนิดเติบโตได้ดี ซึ่งรวมไปถึงวัชพืชด้วย เราจึงต้องหมั่นถอนหรือกำจัดวัชพืชอยู่เสมอ เพื่อให้ผักสวนครัวของเราได้รับสารอาหารและเติบโตเต็มที่ หากมีการปลูกในพื้นที่โล่งหรือที่กลางแจ้ง เราควรหาหลังคาหรือตาข่ายบางๆ มาบังเพื่อลดแรงกระแทกของน้ำฝน หรือจะใช้ฟางแห้ง หญ้าแห้ง มาคลุมดินก็ได้ เพื่อไม่ให้น้ำฝนที่ตกลงมาทำลายหน้าดินและรากผักจนได้รับความเสียหาย และ เพื่อป้องกันเชื้อราที่มากับฤดูฝน อาจจะใช้วิธีธรรมชาติอย่างการน้ำสมุนไพรที่มีรสขมและรสฝาด เช่น ผงขมิ้นชัน ผงฟ้าทะลายโจน กระเทียมตำแหลก มาผสมกับน้ำ แล้วนำไปฉีดที่แปลงผักของเราหลังฝนตกใหม่ๆ ก็สามารถช่วยได้
การปลูกผักในช่วงฤดูหนาว
เป็นอีกช่วงฤดูกาลหนึ่งที่ทำให้พืชผักได้ผลผลิตงาม แต่ก็ต้องระวังในเรื่องของศัตรูพืชและโรคพืชเช่นกัน โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีอากาศเย็นจัดและมีน้ำค้าง ซึ่งมักจะมีความชื้นสะสม อาจป้องกันด้วยน้ำหมักสมุนไพรธรรมชาติ
การปลูกผักในช่วงฤดูร้อน
ควรปลูกผักที่ทนร้อนทนแล้งได้ดี ถึงแม้ว่าผักที่นำมาปลูกนี้จะทนร้อนทนแล้ง แต่ผักสวนครัวบางชนิดก็ต้องหมั่นรดน้ำ ทั้งเช้าและเย็น พรวนดินให้ร่วมซุยแล้วทำการคลุมด้วยฟางข้าว เพื่อป้องกันแดดเผาใบและเพื่อรักษาความชุ่มชื่นของผักที่ปลูกไว้ให้เพียงพอ
สูตรน้ำสมุนไพรทำเองป้องกันศัตรู และโรคพืช
สูตร 1 กระเทียม
คุณสมบัติของกระเทียมมีฤทธิ์เป็นยาฆ่าแมลง ใช้เป็นสารขับไล่แมลงได้
โดยกระเทียมจะช่วยหยุดยั้งการกินอาหารของแมลง และฆ่าเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย
และศัตรูพืชต่างๆ เช่น เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ หนอนกระทู้ผัก ด้วงปีกแข็ง
โรคราน้ำค้าง โรคราสนิมวิธีใช้ ใช้กระเทียม 1 กำมือ โขลกให้ละเอียด เติมน้ำร้อนครึ่งลิตร แช่ทิ้งไว้ 24 ชั่วโมง นำมากรองกากกระเทียม แล้วเอาน้ำที่กรองได้มาผสมกับน้ำเปล่าอีก 4 ลิตร เติมสบู่ครึ่งช้อนโต๊ะ แล้วใช้ฉีดพ่นไล่แมลง วันละ 2 ครั้ง ติดต่อกัน 2 วัน ในตอนเช้า
สูตร 2 ยาเส้น มีฤทธิ์แสบร้อน กลิ่นฉุน ทำให้แมลงบางชนิดเกิดความรำคาญ หาซื้อได้ง่ายและราคาถูก
วิธีใช้ นำยาเส้นมาแช่น้ำทิ้งไว้ 1 คืน จะได้น้ำที่มีกลิ้นฉุนของยาเส้น นำมาใส่ฟอกกี้ ฉีดพ่นลงดิน และ ใบของพืชผักสวนครัวที่เราปลูก
สูตร 3 ขมิ้นชัน เหง้าของขมิ้นชันมีน้ำมันหอมระเหย ที่สามารถขับไล่และกำจัดแมลงได้หลายชนิด เช่น หนอนกระทู้ผัก หนอนผีเสื้อ ด้วงงวงช้าง ด้วงเจาะเมล็ดถั่ว มอด ไรแดง
วิธีใช้ นำขมิ้นครึ่งกิโลกรัมมาตำให้ละเอียด ผสมกับน้ำ ประมาณ 16 ลิตร หมักทิ้งไว้ 1 – 2 วัน กรองเอาแต่น้ำ แล้วนำไปฉีดพ่นกำจัดแมลง