อัพเดตปฎิบัติการณ์หน่วยซิล-อัดคนเพิ่ม,ใช้แบ็กโฮเจาะถ้ำ ระดมสูบน้ำช.ม.ละ1.6ล้านลิต



จากกรณีเมื่อวันที่ 23 มิ.ย. ทหาร ตำรวจ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ (นสร.) หรือหน่วยซีล กู้ภัย และอื่นๆ ที่ร่วมภารกิจปฏิบัติการช่วยเหลือนักฟุตบอลเยาวชนทีมหมูป่าและผู้ฝึกสอน รวม 13 ชีวิต ที่ติดอยู่ภายใน ถ้ำหลวง เขตวนอุทยานถ้ำหลวง-ขุนน้ำนางนอน จ.เชียงราย อย่างแข็งขันตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งขณะนี้เป็นเวลา 10 วัน นับตั้งแต่เริ่มภาระกิจตามหา 13 ชีวิตทีมหมูป่า ท่ามกลางความหวังของเจ้าหน้าที่ ญาติของทั้ง 13 ชีวิต และคนไทยทั้งประเทศ

คืบหน้าล่าสุด ในวันที่ 2 กรกฏาคม 2561 ที่ผ่านมา มีรายงานจาก กองทัพเรือ "Royal Thai Navy" ว่า ความคืบหน้าประจำวันที่ 2 ก.ค. (16.00 น.) การปฏิบัติของชุดช่วยเหลือและค้นหา (หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ (นสร.กร.)/NAVY SEAL) เพื่อช่วยเยาวชนทีมฟุตบอลหมูป่าอะคาเดมี่แม่สาย 13 คน ที่ติดอยู่ภายในถ้ำหลวง - ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย

ปฏิบัติการของ NAVY SEAL ณ วันที่ 9 ในวันที่ 1 ก.ค. เวลา 21.12 น. ชุดช่วยเหลือและค้นหาฯ (NAVY SEAL) ทีม SEAL 3, 4, 5 และ 6 ร่วมกับนักดำน้ำชาวอังกฤษ ดำน้ำจากโถง 3 (บริเวณจุดเริ่มดำน้ำ) ไปยังสามแยก เวลา 23.45 น. ระดับน้ำที่จุดเริ่มดำน้ำ (โถง 3) 40.5 ซม.

ส่วนในวันนี้ (2 ก.ค.) ระหว่างเวลา 09.30 - 15.00 น. ลำเลียงขวดอากาศ 100 ขวด รวมถึงอุปกรณ์สนับสนุน เช่น Surface Supply, เข็มขัดตะกั่ว, แท่งเรืองแสง (chemical light stick) เป็นต้น ไปไว้ที่โถง 3 โดยใช้นักดำน้ำจากประเทศต่างๆ และจากทุกส่วนที่มาสนับสนุนช่วยในการลำเลียง

และจะใช้ขวดอากาศ 100 ขวด ที่นำมาไว้ที่โถง 3 เพื่อดำน้ำต่อระยะไปที่สามแยก (การดำเนินการลำเลียงขวดอากาศจากปากถ้ำไปยังสู่โถง 3 ระยะทางประมาณ 3 กม. ใช้การลำเลียง 1 คน ต่อ 1 ขวด ใช้เวลาในการลำเลียงประมาณ 1 ช.ม.)

2.ดำเนินการวางเบสไลน์จากจุดเริ่มดำน้ำไปยังสามแยก (ระยะประมาณ 600 ม.) ให้เสร็จสิ้นด้วยชุดช่วยเหลือและค้นหาฯ (NAVY SEAL) ที่จัดเป็น 6 ชุด (SEAL 1 - 6) จากนั้นจะทำการส่งนักดำน้ำเข้าสำรวจเส้นทางไป และวางแผนในการเคลื่อนตัวไปยังหาดพัทยา (ระยะทางประมาณ 600 ม.จากสามแยก) ต่อไป




ด้าน นายณรงค์ศักดิ์ โอสถธนากร ผวจ.เชียงราย แถลงความคืบหน้าปฏิบัติการช่วยเหลือทีมหมูป่าทั้ง 13 ชีวิต เป็นวันที่ 10 ว่า กรมอุทยานฯ และกรมชลประทานได้ปิดทางน้ำบริเวณห้วยน้ำดั้ง ดอยผาหมี เพื่อไม่ให้มีน้ำไหลเข้ามาเติมได้อีก ส่วนหน่วยซีลยังอยู่ใกล้เคียงกับบริเวณเมื่อตอนเช้า แต่เติมถังอากาศอัดเข้าไปได้มากและน่าพอใจ โดยตั้งบริเวณทางสามแยกเข้าไป ขณะที่การสูบน้ำทางตอนใต้ บริเวณถ้ำทรายทองก็สำเร็จ ทำให้ระดับน้ำภาพรวมลดลง

"น้องๆทั้ง 13 ชีวิตต้องรักษาพลังงาน ปกติมนุษย์หากเลย 10 วัน ร่างกายจะนำไขมันและกล้ามเนื้อมาใช้ ทำให้มนุษย์อาจอยู่ได้ 30 วัน ตามทฤษฎี เราจึงยังไม่หมดความหวัง แต่อาจไม่มีแรงในการเคลื่อนย้ายร่างกาย จึงมีหมอดำน้ำไปดูแลสุขภาพด้วย เพื่อดูความพร้อมของทั้ง 13 ชีวิต โดยอาจให้อาหารที่มีพลังงานสูง เชื่อว่าในเวลาอันใกล้ เราอาจหาทั้ง 13 ชีวิตพบ จึงขอให้สวดมนต์ให้ทั้ง 13 ชีวิตปลอดภัยด้วย แต่ความชัดเจนอย่างทางการตอนนี้ยังไม่มี เพราะยังเข้าไปไม่ถึง เนื่องจากมีความเสี่ยง แต่ถ้ามีความพร้อม 90 เปอร์เซ็นต์เจ้าหน้าที่จะเข้าไปทันที"

ด้านพล.ต.บัญชา ดุริยพันธ์ ผบ.มทบ.37 กล่าวว่า ถ้ำหลวงมีโพรงมากมาย ดังนั้นจึงต้องกันไม่ให้น้ำเข้าไป เพื่อให้หน่วยซีลทำงานได้สะดวก เริ่มจากการขุดเจาะบ่อบาดาลลงไปในหินปูน 3 ตัว ตอนนี้สามารถพร่องน้ำได้ชั่วโมงละ 5 หมื่นลิตร จุดต่อมาบริเวณถ้ำทรายทอง พบมีตาน้ำและน้ำอยู่เต็มถ้ำ เบื้องต้นจึงใช้รถแบ็กโฮและหัวเจาะทลายถ้ำ ก่อนเบี่ยงน้ำที่ขังอยู่ออกมา ด้วยการระบายน้ำและต่อท่อ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่ ทำให้ตอนนี้สามารถระบายน้ำได้ชั่วโมงละ 1.6 ล้านลิตร พร้อมขุดแอ่งรับน้ำ
ส่วนรองอธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ห้วยน้ำดั้งจะไหลเป็นทางยาว จากการสำรวจร่วมกับกรมชลประทานและกรมทรัพยากรธรณี พบมีรูผุดเข้าไปในถ้ำ จึงดำเนินการต่อท่อและเบี่ยงทางน้ำออกจากโพรง ซึ่งสกัดน้ำได้ปริมาณค่อนข้างมาก พร้อมทำฝาย 2 จุดและต่อท่อเข้าไปเพื่อลดปริมาณน้ำด้านใน นอกจากนี้ยังได้รับความร่วมมือกับชาวบ้านในการดำเนินงานด้วย

ขณะที่รองแม่ทัพภาคที่ 3 กล่าวว่า ส่งกำลังทหารไปปฏิบัติงานบนเขากว่า 100 นาย โดยตรวจสอบโพรงทั้งหมด 4 จุด และพบเพิ่มอีก 2 จุด ซึ่งมีอยู่ 1 จุดที่เข้าไปสำรวจแล้ว 400 เมตร อีกโพรงเข้าไป 50 เมตร ส่วนอีก 4 โพรงกำลังดำเนินการ ส่วนงานใช้เครื่องมือเจาะลงไป ได้ใช้เฮลิคอปเตอร์ยกเครื่องจักรขึ้นไปบนเขา เพื่อเตรียมดำเนินการขุดเจาะในคืนนี้ แต่บางจุดที่ใช้เฮลิคอปเตอร์ขนไม่ได้ จะใช้กำลังพลลำเลียงเครื่องเจาะที่มีขนาดใหญ่มากขึ้นไป