ซึ่งเธอได้เล่าว่า มีอยู่วันหนึ่งเธอก็เดินทางไปทำงานที่ร้านตามปกติ และวันนี้ไม่ปกติเมื่อได้เจอกับลูกค้า สองสามีภรรยานักท่องเที่ยว ชาวออสเตเรียคู่หนึ่ง ที่มานั่งกินอาหารในร้าน และเธอก็ได้เป็นคนบริการพวกเขา
ซึ่งเธอก็ได้พูดคุยอย่างเป็นกันเองกับทั้งคู่ ตามอัธยาศัย การบริการด้วยรอยยิ้ม ทำให้ต่างฝ่ายต่างซักถามกันไปมา และพวกเขาก็ถามเธอว่า เธอมาทำอะไรที่นี่ ซึงเธอก็เล่าไปตามตรง ว่ามาเรียน แต่เงินไม่พอจึงต้องหยุดเรียนแถมยังมีหนี้สินที่ต้องจ่าย ส่งกลับไปทางบ้าน และที่นี่ก็ค่าครองชีพสูงมาก สุดท้่ายก็ต้องมาทำงานเป็นเด็กเสิร์ฟ
แต่จุดพลิกมันมาอยู่ตรงที่ว่า หลังจากที่ทั้งคู่ ได้เช็คบิลในร้านอาหารเสร็จแล้ว บนใบเสร็จรับเงิน ราคาอาหารทั้งหมดแค่ 205 ดอลลาร์สหรัฐ หรือราว ๆ 6 พันบาทไทย แต่พวกเขากลับ จ่ายเพิ่มมาเป็นค่า ทิป ให้กับเธออีก 400 ดอลล่าห์ ซึ่งนั่นมากกว่าค่าอาหารเสียอีก ซึ่งมีมูลค่าราว ๆ 12400 บาทไทย ทำเอาเธอถึงกับตกใจอย่างไม่น่าเชื่อ
เรื่องนี้ทำให้เธอรู้สึกตื้นตันใจ กับสิ่งที่คู่รักนักท่องเที่ยวนี้หยิบยื่นให้ และเธอจำได้ว่า พวกเขาเคยบอกให้ฟังว่า พวกเขาพักอยู่ที่ไหน จึงได้เขียนจดหมายไปแสดงความขอบคุณ และไปที่โรงแรมดังกล่าว พร้อมกับช่อดอกไม้ขอบคุณทั้งคู่
แต่นั่นยิ่งเป็นการทำให้เรื่องราว พีคขึ้นอีก เมื่อวันต่อมา ทั้งคู่กลับมาที่ร้านอีกครั้ง และบอกเธอว่า พวกเขาจะช่วยปลดหนี้ให้เธอทั้งหมด โดยจะมอบเงิน 1 หมื่นดอลล่าห์ หรือประมาณ 310000 บาทไทย เพื่อให้เธอนำไปใช้หนี้สิน
แต่หญิงสาวคนดังกล่าวก็ได้ปฏิเสธไป เพราะนี่เป็นอะไรที่รับไม่ได้จริง ๆ และเธอก็ได้กล่าวขอบคุณในน้ำใจที่คู่รักคู่นี้มอบให้ แต่คู่รักคู่นี้ ก็ยังยืนยันเสียงแข็งว่า พวกเขาต้องการมอบเงินจำนวนนี้ให้เธอจริง และมีข้อแม้แค่อย่างเดียวคือ เธอต้องกลับไปเรียนหนังสือให้จบ และเป็นคนดีแบบนี้ตลอดไป ทำสิ่งที่ดีที่สุด ต่อชีวิตของตัวเองต่อไป
สุดท้ายแล้ว ตัวหญิงสาวคนนี้ก็ได้ตอบรับคำเสนอ และสัญญากับทั้งคู่ว่า เธอจะเป็นคนดี และจะกลับไปเรียนหนังสือ อย่างที่ตั้งใจไว้ต่อไป จากนั้นก็ได้นำเรื่องราวมาโพสบอกเล่าเป็นประสบการณ์ให้ทุกคนได้ฟัง และมีกำลังใจ โดยเธอบอกว่า ทำดีต้องได้ดี ไม่วันใดก็วันหนึ่ง
ที่มา sunnyskyz
เรียบเรียง โชว์ข่าว