ในยุคที่ข้าวยากหมากแพง เศรษฐกิจเมืองไทยไม่ค่อยดีนัก ช่วงหลังมีการปลดพนักงานประจำจากสำนักงานและบริษัทต่างๆ ให้ได้ยินกันอยู่บ่อยๆ วันนี้ Tonkit360 จึงมี 8 ทางออกที่ดีสำหรับคนตกงาน เพื่อให้มีกำลังใจสู้ในวันต่อไป มาฝากทุกคนกัน
1.หยุดใช้เงินฟุ่มเฟือย ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
การใช้จ่ายแบบไม่ยั้งคิด ใช้จ่ายเกินตัว ในช่วงที่กำลังตกงานอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะขณะนี้คือช่วงที่เราต้องประหยัดเงินไว้เพื่อสิ่งที่สำคัญกว่า คือไว้ใช้จ่ายซื้อกับข้าว และค่ารถค่าเดินทางไปสัมภาษณ์งาน ฉะนั้นควรหักห้ามใจตัดรายจ่ายที่ไม่สมควรหรือไม่จำเป็นออกไปก่อน
2.ส่งเรซูเมไปเรื่อยๆ แค่ได้สัมภาษณ์ก็คือประสบการณ์แล้ว
อย่าย่อท้อต่ออุปสรรค เดินหน้าโปรยเรซูเม่ในอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีสำนักงานหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งเรียกสัมภาษณ์ ไม่ก็เดินเท้าสมัครงานตามป้ายประกาศไปเลย เริ่มจากสถานที่ที่ใกล้ที่พักก่อน หรือถ้ามีที่ไหนในใจแล้วก็ลองเข้าไปสมัครทิ้งไว้ ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายจริงไหมล่ะ
3.เพิ่มสกิลภาษาอังกฤษ ด้วยการไปเรียนเพิ่มเติม
การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ถือเป็นสิ่งควรปฏิบัติ หากมีเวลาว่างยาวๆ ควรหาทักษะเพิ่มเติมให้กับตนเอง เพื่อไม่ให้เวลาที่ผ่านไปเสียเปล่า และภาษาอังกฤษ ก็ถือเป็นภาษาที่ควรเรียนรู้ เพราะทุกวันนี้ทุกบริษัทให้ความสำคัญกับภาษาเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าตัวเราสามารถสื่อสารภาษาที่สอง นอกจากภาษาไทยได้แล้วล่ะก็ โอกาสที่จะได้งาน แถมได้ค่าภาษาเพิ่มนั้นก็มีสูงขึ้นอีกด้วย
4.ทำสิ่งที่ชอบ และเริ่มธุรกิจเป็นของตัวเอง
มองหาสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วลงมือทำอย่างมีความสุข คนส่วนใหญ่ถ้าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมักจะทำได้ดีเสมอ ถ้าคุณหลงใหลอะไรสักอย่างคุณก็คงจะอยากทำแต่สิ่งนั้นใช่ไหมล่ะ เมื่อค้นพบสิ่งที่ชอบก็เริ่มวางแผนธุรกิจ และเป็นนายของตัวเองไปเลย สมัยนี้ใครลงมือก่อนส่วนใหญ่จะสำเร็จก่อนนะ
5.อย่าจมปลักกับงานในตำแหน่งเดิม
ลองหาตำแหน่งใหม่ที่น่าจะเหมาะกับเรา และเราก็มีความสุขถ้าได้ทำมัน อย่ายึดติดหรือจมปลักอยู่กับตำแหน่งเดิมๆ ที่เคยทำมาแล้ว เพราะมันอาจไม่ใช่ทางของเราก็ได้ บางคนทำงานไม่ตรงกับที่เรียนมา แต่พอทำในสายอื่นกลับทำได้ดี และประสบความสำเร็จมากๆ ก็มีให้เห็นอยู่ถมไป
6.ทำงานพาร์ทไทม์ เป็นอาสาสมัคร
หาประสบการณ์ก่อนได้งานประจำ การไปทำงานพาร์ทไทม์ ฝึกงาน หรือไปเป็นอาสาสมัคร ก็ถือเป็นการฆ่าเวลาที่เกิดประโยชน์มากๆ อีกอย่าง แม้ว่าจะยังไม่ได้เงินเดือนเป็นกอบเป็นกำเหมือนตอนทำงานประจำ แต่คิดในแง่หนึ่งงานพาร์ทไทม์ก็ได้ค่าตอบแทนที่พอจุนเจือตัวเราเองได้บ้างอยู่เหมือนกันนะ
7.ไปงานสัมมนา พบปะผู้คนใหม่ๆ
ออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ หาช่องทางการติดต่อจากคนอื่นด้วยการไปสัมมนา ไปนั่งฟังแลกเปลี่ยนความคิดตามงานสัมมนาที่จัดขึ้นแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการหาความรู้เพิ่มไปในตัว จากหัวข้อสัมมนาต่างๆ ที่เราสนใจ เลือกหัวข้อที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองและต่อทิศทางตำแหน่งของเราในอนาคต
8.หาสิ่งบันเทิงใจทำ ดูหนัง ฟังเพลง
หาความบันเทิงใส่ตัว ดูหนังบ้าง ฟังเพลงบ้าง การได้ดู ได้ฟังอะไรที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายนั้น เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ถึงแม้เราจะยังหางานใหม่ไม่ได้ หรือยังไม่มีบริษัทไหนเรียกสัมภาษณ์ เราก็หาสิ่งบันเทิงต่างๆ มาให้กำลังใจตัวเองนั้นถูกต้องแล้ว
1.หยุดใช้เงินฟุ่มเฟือย ตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น
การใช้จ่ายแบบไม่ยั้งคิด ใช้จ่ายเกินตัว ในช่วงที่กำลังตกงานอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะขณะนี้คือช่วงที่เราต้องประหยัดเงินไว้เพื่อสิ่งที่สำคัญกว่า คือไว้ใช้จ่ายซื้อกับข้าว และค่ารถค่าเดินทางไปสัมภาษณ์งาน ฉะนั้นควรหักห้ามใจตัดรายจ่ายที่ไม่สมควรหรือไม่จำเป็นออกไปก่อน
2.ส่งเรซูเมไปเรื่อยๆ แค่ได้สัมภาษณ์ก็คือประสบการณ์แล้ว
อย่าย่อท้อต่ออุปสรรค เดินหน้าโปรยเรซูเม่ในอินเทอร์เน็ตไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีสำนักงานหรือบริษัทใดบริษัทหนึ่งเรียกสัมภาษณ์ ไม่ก็เดินเท้าสมัครงานตามป้ายประกาศไปเลย เริ่มจากสถานที่ที่ใกล้ที่พักก่อน หรือถ้ามีที่ไหนในใจแล้วก็ลองเข้าไปสมัครทิ้งไว้ ก็ไม่ได้มีอะไรเสียหายจริงไหมล่ะ
3.เพิ่มสกิลภาษาอังกฤษ ด้วยการไปเรียนเพิ่มเติม
การใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ถือเป็นสิ่งควรปฏิบัติ หากมีเวลาว่างยาวๆ ควรหาทักษะเพิ่มเติมให้กับตนเอง เพื่อไม่ให้เวลาที่ผ่านไปเสียเปล่า และภาษาอังกฤษ ก็ถือเป็นภาษาที่ควรเรียนรู้ เพราะทุกวันนี้ทุกบริษัทให้ความสำคัญกับภาษาเป็นอย่างมาก ยิ่งถ้าตัวเราสามารถสื่อสารภาษาที่สอง นอกจากภาษาไทยได้แล้วล่ะก็ โอกาสที่จะได้งาน แถมได้ค่าภาษาเพิ่มนั้นก็มีสูงขึ้นอีกด้วย
4.ทำสิ่งที่ชอบ และเริ่มธุรกิจเป็นของตัวเอง
มองหาสิ่งที่ตัวเองชอบแล้วลงมือทำอย่างมีความสุข คนส่วนใหญ่ถ้าได้ทำในสิ่งที่ตัวเองรักมักจะทำได้ดีเสมอ ถ้าคุณหลงใหลอะไรสักอย่างคุณก็คงจะอยากทำแต่สิ่งนั้นใช่ไหมล่ะ เมื่อค้นพบสิ่งที่ชอบก็เริ่มวางแผนธุรกิจ และเป็นนายของตัวเองไปเลย สมัยนี้ใครลงมือก่อนส่วนใหญ่จะสำเร็จก่อนนะ
5.อย่าจมปลักกับงานในตำแหน่งเดิม
ลองหาตำแหน่งใหม่ที่น่าจะเหมาะกับเรา และเราก็มีความสุขถ้าได้ทำมัน อย่ายึดติดหรือจมปลักอยู่กับตำแหน่งเดิมๆ ที่เคยทำมาแล้ว เพราะมันอาจไม่ใช่ทางของเราก็ได้ บางคนทำงานไม่ตรงกับที่เรียนมา แต่พอทำในสายอื่นกลับทำได้ดี และประสบความสำเร็จมากๆ ก็มีให้เห็นอยู่ถมไป
6.ทำงานพาร์ทไทม์ เป็นอาสาสมัคร
หาประสบการณ์ก่อนได้งานประจำ การไปทำงานพาร์ทไทม์ ฝึกงาน หรือไปเป็นอาสาสมัคร ก็ถือเป็นการฆ่าเวลาที่เกิดประโยชน์มากๆ อีกอย่าง แม้ว่าจะยังไม่ได้เงินเดือนเป็นกอบเป็นกำเหมือนตอนทำงานประจำ แต่คิดในแง่หนึ่งงานพาร์ทไทม์ก็ได้ค่าตอบแทนที่พอจุนเจือตัวเราเองได้บ้างอยู่เหมือนกันนะ
7.ไปงานสัมมนา พบปะผู้คนใหม่ๆ
ออกไปพบปะผู้คนใหม่ๆ หาช่องทางการติดต่อจากคนอื่นด้วยการไปสัมมนา ไปนั่งฟังแลกเปลี่ยนความคิดตามงานสัมมนาที่จัดขึ้นแบบไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการหาความรู้เพิ่มไปในตัว จากหัวข้อสัมมนาต่างๆ ที่เราสนใจ เลือกหัวข้อที่จะเป็นประโยชน์ต่อตัวเราเองและต่อทิศทางตำแหน่งของเราในอนาคต
8.หาสิ่งบันเทิงใจทำ ดูหนัง ฟังเพลง
หาความบันเทิงใส่ตัว ดูหนังบ้าง ฟังเพลงบ้าง การได้ดู ได้ฟังอะไรที่ทำให้เรารู้สึกผ่อนคลายนั้น เป็นสิ่งที่ควรทำอยู่แล้ว ถึงแม้เราจะยังหางานใหม่ไม่ได้ หรือยังไม่มีบริษัทไหนเรียกสัมภาษณ์ เราก็หาสิ่งบันเทิงต่างๆ มาให้กำลังใจตัวเองนั้นถูกต้องแล้ว