1.รักษาความสะอาดของร่างกายอยู่เสมอ
การอาบน้ำชำระล้างร่างกายนั้นเป็นวิธีแรกที่ง่าย และสำคัญที่สุดในการกำจัดกลิ่นตัวอันน่าเวียนหัวชวนยี้อย่างได้ผล เพราะสบู่ที่ใช้จะช่วยในการชะล้างไขมัน สิ่งสกปรกและแบคทีเรียออกจากร่างกาย รวมทั้งในบางยี่ห้อของสบู่ยังมีส่วนผสมที่ระงับการเจริญเติบโตของแบคทีเรีย ลดอาการคัน และมีสารสกัดธรรมชาติที่ให้กลิ่นสดชื่นแก่คุณ นอกจากนี้การขัดหรือสครับตัวในบางครั้ง โดยเน้นในจุดที่อับชื้นก็จะช่วยลดกลิ่นตัวลงได้มาก อย่างเช่น การใช้เบกกิ้งโซดา หรือกากกาแฟขัดผิว เป็นต้น
2.ใช้ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่น
กรณีที่ต้องการกำจัดกลิ่นตัวอย่างรวดเร็ว ลองหาผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ และอ่อนโยนต่อผิว อย่างเช่น สารส้ม ก็จะช่วยให้ผิวกายมีกลิ่นลดลง และไม่ระคายเคืองอีกด้วย
3.เช็ดตัวให้แห้งหลังอาบน้ำเสร็จ
แม้จะมีการทำความสะอาดร่างกายอย่างดีแล้วก็ตาม แต่หากไม่เช็ดตัวให้สะอาด ตามซอกหลืบของร่างกาย เช่น หลังหู ข้อพับ ง่ามนิ้วเท้า รวมทั้งปล่อยตัวให้แห้งเองนั้น นอกจากจะไม่สบายได้ง่ายแล้ว ยังส่งผลให้เกิดการอับชื้น หมักหมม และแบคทีเรียก็สามารถเจริญเติบโตได้เร็ว อันก็เป็นสาเหตุของกลิ่นตัวนั่นเอง
4.ลดการทานอาหาร และเครื่องเทศสมุนไพรที่มีกลิ่นแรง
เนื่องจากอาหารบางชนิด หรือสมุนไพรเครื่องเทศส่วนใหญ่มักจะมีกลิ่นฉุน และรสเผ็ดร้อนแรง จึงทำให้เมื่อเรารับประทานเข้าไปในปริมาณมากและต่อเนื่อง ร่างกายก็จะทำการขับกลิ่นเหล่านี้ออกมาทางผิวหนัง โดยเฉพาะในเวลาที่เหงื่อออก กอปรกับแบคทีเรียที่อยู่ตามผิวหนังก็จะช่วยเสริมแรงของกลิ่นให้ฟุ้งกระจายมากขึ้น อย่างเช่น กระเทียม พริกไทย ผักชี ปลาร้า หรือแม้แต่ผลไม้อย่างทุเรียน ก็ส่งกลิ่นน่าเวียนหัวได้เช่นกัน ดังนั้น ควรรับประทานแต่เพียงน้อยจะดีกว่า
5.เปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ที่แห้ง และสะอาด
แม้จะดูเป็นเรื่องธรรมดาที่ใครๆ ต่างก็ทำกัน แต่เสื้อผ้าที่เราสวมใส่นี่แหล่ะ เป็นแหล่งก่อให้เกิดเชื้อโรค และสร้างกลิ่นอันไม่น่าพึงประสงค์ได้ โดยเฉพาะในฤดูฝน การซักผ้าในเวลากลางคืน และตากในที่ที่แสงแดดส่องไม่ถึง ก็มักจะเกิดกลิ่นอับชื้นได้ง่าย
และนี่ก็คือ วิธีกำจัดกลิ่นตัวอันไม่พึงประสงค์อย่างได้ผล จากนี้เพียงทำตามนี้ทุกวัน รับรองจะช่วยลดกลิ่นตัวลงได้แน่นอน ทำให้บุคลิกดีขึ้น ไม่ต้องอับอายกับการออกไปพบปะผู้คนกันอีกต่อไป
ขอขอบคุณ
ภาพ :iStock, Unsplash