Home »
Uncategories »
สาวถูกบริษัทสื่อเลิกจ้าง แถมโดนตราหน้าว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่จำเป็น
สาวถูกบริษัทสื่อเลิกจ้าง แถมโดนตราหน้าว่าเป็นตำแหน่งที่ไม่จำเป็น
ตอนนี้เรียกได้ว่า วงการสื่อโทรทัศน์กำลังอยู่ในช่วงวิกฤตเลยทีเดียวค่ะ
ด้วยสื่อออนไลน์เข้ามาแทนที่ ทำให้สื่อโทรทัศน์ขาดทุน
จนหลายสำนักมีการประกาศคืนช่อง และพนักงานหลายตำแหน่งโดนจ้างให้ออก
ถูกเลิกจ้าง ต้องปรับตัวกันอย่างหนัก
เช่นเดียวกับผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ Preeya Luck ที่เป็นหนึ่งในพนักงานที่โดนเลิกจ้าง โดยเธอได้มารีวิวประสบการณ์อันเลวร้าย ว่า
รีวิวการถูกเลิกจ้าง
- ค่ะ
ไม่ได้หูฝาดตาฝาดกันเราถูกเลิกจ้างจริงๆ ทั้งๆ
ที่ทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่างให้กับงานอย่างที่พอจะได้เห็นกันผ่านเฟซบุ๊คนี้
(ซึ่งเป็นเพียงบางส่วนที่แชร์ให้เห็น เรื่องจริงเยอะกว่านั้น280เท่า)
-
ท้าวความก่อนเรื่องของความไม่มั่นคงในอาชีพ มี่เคยเกิดขึ้นเมื่อเดือนก่อน
มีเพื่อนร่วมงานโดนเลิกจ้างไปจำนวนหนึ่ง
ครั้งนั้นเหตุผลคือผลประเมินกลางปีต่ำ ซึ่งตอนนั้นเอาตรงๆก็กลัวอยู่
แต่ก็คิดว่าไม่น่าโดนเพราะผลประเมินค่อนข้างสูง (อยู่ในระดับต้นๆของสถานี)
- ต้นเดือนนี้ลูกน้องในทีม 2
คนโดนคอชั่น คือเสี่ยงจะโดนเลิกจ้าง เราก็ยังพยายามหาทางช่วยน้อง
คือคิดว่าเราต้องรอดทั้งทีม เพราะงานที่ทุ่มเทไปเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆทุกวัน
และผูกพันกับทุกคนในทีม
-
เมื่อคืนมีคำสั่งให้สแตนบายรอการปรับโครงสร้างใหม่
เรายังวิ่งในทุ่งลาเวนเดอร์ว่าคงแค่แจ้งตำแหน่งผู้บริหารใหม่
เพราะเพิ่งรับมา แต่พอน้องที่โดนคอชั่น 2คนโดนให้ออก
ก็ออกมาอยู่ในโลกจริงทันที555
-
หลังฟังผลน้องโปรดิวเซอร์ในทีมที่ถูกเลิกจ้างก็พากันมากินข้าวเที่ยง
ยังช่วยกันคิดอยู่เลยว่าจะหางานให้น้องที่นั่นที่นี่
แต่ระหว่างกินข้าวก็มีแอดมินโทรมาให้ขึ้นไปพบผู้บริหาร
- หลังขึ้นไป ไม่ได้พบผู้บริหารจ้า
พบ HR และหัวหน้างานสองคน จนไปนั่งในห้องก็ยังไม่คิดว่าจะโดน
คิดว่าน่าจะเรียกมาด่าที่โฟนอินนักวิชาการในายการแล้วเค้าพูดแรง
- พอเค้าแจ้งว่าเราโดนเลิกจ้าง
เพราะจะมีการควบรวมองค์กร ทำให้ตำแหน่งที่เราทำอยู่ "ไม่จำเป็น" แล้ว
(โอ้โหเจ็บตรงนี้ นี่ท้าให้ไปถามใครก็ได้ในออฟฟิศว่าเราทุ่มเทกับงานแค่ไหน
ถ้ามีคนตอบว่าไม่ใช่ให้มาเหยียบหน้าเลย)
-
ที่เสียใจคือรายการที่เค้าสั่งให้เรามาทำโดยไม่เต็มใจ เพราะเรตติ้งต่ำ
คือเราเริ่มปั้นมาจาก 0 จริงๆ วางรูปแบบใหม่
หาพิธีกรใหม่(ตามคำสั่ง)ซึ่งทุกกระบวนการคือเราทำเองทั้งหมด
ตั้งแต่หาเบอรโทร ติดต่อ พรีเซนต์จนผ่าน ต่อรองราคายังต้องทำเอง
แล้วเรตติ้งมันก็ค่อยๆ โต คอนเทนท์มันก็ค่อยๆลงตัว ทุกอย่างกำลังไปด้วยดี
-
พูดได้เลยว่าการถูกย้ายมาทำข่าวเช้ามันเหมือนถูกสั่งให้เดินขึ้นภูเขาที่สูงมากๆ
โดยที่ไม่มีอุปกรณ์อะไรให้แม้แต่รองเท้า คือต้องเดินเท้าเปล่าขึ้นภูเขา
โดนจี้ให้วิ่งเร็วๆทุกวัน ระหว่างทางไม่มีน้ำให้กิน
ต้องดิ้นรนหาน้ำจากห้วยหนองคลองบึงอ้าปากรับน้ำฝนกันตาย
แต่พอเริ่มเดินได้ไกลขึ้นสูงขึ้น คนที่สั่งให้เดินกลับมาถามว่าเดินทำไม
และตอนนี้ก็โดนคนเดียวกันนั่นแหละถีบลงเขา
- ความเสียใจที่เกิดขึ้น
ไม่ได้มาจากการกลัวว่าจะตกงานหรืออะไร แค่เสียดายความทุ่มเท
เสียดายเวลาที่ควรจะได้อยู่กับลูก เสียดายเวลาที่จะได้อยู่กับแฟน
เสียดายเวลาที่จะได้ออกกำลังกาย นอนพักผ่อนเต็มที่
หรือไปพบปะเพื่อนฝูงอย่างมนุษย์ปกติเค้าทำกัน
-
แต่สุดท้ายชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไปแหละนะ ขอบคุณทุกกำลังใจ
ครอบครัวที่ไม่เคยตำหนิมีแต่ให้กำลังใจ เพื่อนทุกคนที่เป็นเดือดเป็นแค้นแทน
กัลยาณมิตรในที่ทำงานที่เห็นว่าสิ่งที่เราโดนมันไม่เป็นธรรม
- สุดท้ายที่อยากจะบอกคือ เจอกันที่ศาลแรงงานนะจ๊ะ
ชีวิตไม่สิ้นก็ยังต้องดิ้นกันต่อไป
เชื่อว่าตอนนี้พนักงานเกี่ยวกับสื่อโทรทัศน์หลายคนกำลังปรับตัวกันอย่างหนัก
ถึงแม้จะไม่โดนเลิกจ้าง
ก็คงต้องหาช่องทางทำมาหากินเสริมเผื่ออนาคตเอาไว้ด้วยเช่นกัน
เรียบเรียงโดย : thaihitz.com ขอขอบคุณข้อมูลจาก Preeya Luck