Home »
Uncategories »
อย่าโยนทิ้งเสียดายมาก ประโยชน์ของ “แกนสับปะรด” ที่ไม่ควรมองข้าม
อย่าโยนทิ้งเสียดายมาก ประโยชน์ของ “แกนสับปะรด” ที่ไม่ควรมองข้าม
“สับปะรด”
เป็นหนึ่งในผลไม้ที่มีประโยชน์มากต่อสุขภาพร่างกายของเราอย่างมาก
นอกจากจะดีต่อสุขภาพแล้วยังดีต่อรูปร่างและผิวพรรณอีกด้วย
หลายๆคนมักชอบกินสับปะรดแล้วทิ้งแกนตรงกลางของสับปะรด
แต่หารู้ไม่ว่าแกนกลางของสับปะรดนั้นมีประโยชน์มากมายอย่าเหลือเชื่อ
มาดูสรรพคุณที่ดีกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1 มีฤทธิ์ช่วยย่อยอาหาร
หากในมื้อไหนที่ตัวเรานั้นทานอาหารจำพวกเนื้อสัตว์เข้าไปมากๆ จนมีอาการจุก
แน่นท้อง ให้ทานสับปะรดเข้าไปหลังรับประทานอาหารจะช่วยลดอาการเหล่านี้ได้
2 เป็นส่วนช่วยลดการอักเสบของกระเพาะอาหาร เพราะเอนไซม์บรอมีเลนมีฤทธิ์เป็นยาที่คอยกำจัดเชื้ออ่อนๆ
3 มีส่วนช่วยในระบบการขับถ่ายให้ทำงานได้ดี
เพราะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆ มีกากใยมาก จึงช่วยแก้ท้องผูกได้ดี
แต่ก็ไม่ควรทานมากไป เพราะอาจจะทำให้ท้องเสียแทนได้
4 มีฤทธิ์ขับปัสสาวะ แก้ขัดเบา
5 มีส่วนช่วยลดอาการปวดข้อ ข้ออักเสบ หลังจากออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาหนักๆ อาการจะดีขึ้น
6 เพิ่มภูมิคุ้มกันในร่างกาย มีส่วนช่วยการต่อต้านโรคม ะ เ ร็ งได้หลายชนิด
7 บรรเทาโรคเ ก า ต์ ได้ โดยทานสับปะรด 1/4 ผล (ขนาดเล็ก) วันละ 2-3
ครั้ง หลังอาหาร 1 ชั่วโมงครึ่ง เพื่อให้เอนไซม์บรอมีเลนช่วยต้านการอักเสบ
ลดความเจ็บปวดจากการอักเสบ
รับประทานสับประรดอย่างไรให้ได้ประโยชน์สูงสุด
แม้สับปะรดจะมีแคลอรี่ต่ำ แต่ก็เป็นผลไม้ที่มีน้ำตาลสูง
ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนักและผู้ป่วยเบาหวานที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลจึงไม่ควรรับประทานมากเกินไป
โดยสับปะรดขนาดพอดีคำประมาณ 6 ชิ้น จะเท่ากับปริมาณผลไม้ 1 ส่วน
ซึ่งปริมาณผลไม้ที่แนะนำให้รับประทานในแต่ละวัน คือ 3-5 ส่วน อย่างไรก็ตาม
ในหนึ่งวันคุณควรรับประทานผลไม้ให้หลากหลาย
โดยพิจารณาความหวานของผลไม้ประกอบด้วย ไม่รับประทานแต่ผลไม้ที่มีรสหวาน
เพื่อไม่ให้ได้รับน้ำตาลมากเกินไป
เนื่องจากสับปะรดมีเอนไซม์บรอมมีเลนและมีความเป็นกรดสูง
การรับประทานหลังมื้ออาหารจึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยอาหาร
แต่ในขณะเดียวกันการรับประทานสับปะรดขณะท้องว่างนั้นหรือทานในปริมาณที่มากจนเกินไปก็อาจก่อให้เกิดการระคายเคืองต่อระบบทางเดินอาหารได้
ทั้งยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองเล็กน้อยภายในปาก บริเวณริมฝีปาก
และลิ้นได้เช่นกัน
นอกจากการรับประทานสับปะรดสดแล้ว
หลายคนยังนิยมนำเนื้อสับปะรดไปทำเป็นอาหารคาวหวานหลายชนิด เช่น แกงสับปะรด
ข้าวผัดสับปะรด แกงคั่วสับปะรดกับหอยแมลงภู่
ส่วนของหวานก็มีทั้งขนมและเครื่องดื่ม
รวมไปถึงการนำมาแปรรูปให้อยู่ในรูปของการถนอมอาหารได้อีกด้วย
ขอบคุณข้อมูลจาก : Siriwan Monrit Flower