ดูไว้นะ!! จากชีวิตมีแต่หนี้จนมีเก็บแสน ขอแค่ลดอัตตา ลดหน้าตาทางสังคมลง ลดความหรูหรา ดีขึ้นทันที

ช่วงชีวิตนึงตอนอยู่กับภรรยาคนเก่า

ที่ทำงานเป็นพนักงานขายในห้าง

ผมได้มีโอกาสรู้จักพนักงานห้างคนนึง

ที่มีหนี้สิน เช่นเดียวกับพนักงานคนอื่นๆ

หนี้บัตร ผ่อนของ ใช้จ่าย

เดือนบางเดือน…ไม่เหลือ!

ปีแรกสร้างหนี้ให้ตัวเองด้วยโทรศัพท์ที่อยากได้

ผ่อนมันผ่านบัตร ปีต่อๆ มาในกระเป๋าตังค์มีบัตรเครดิตมากกว่า2ใบ

4 ปี…ทำงานใช้หนี้บัตรอย่างเดียว

ใช้หนี้ที่ตัวเองก่อไว้ โทรศัพท์ ทีวี เครื่องใช้ต่างๆ

จนวันนึง…เขาอยากมีชีวิตใหม่

เขาโยนบัตรทุกใบทิ้งหมด! คืนรถยนต์ที่ผ่อนมาเป็นปี

ย้ายออกจากอพาร์ตเมนต์เดือนละ 6 พัน ไปเช่าห้องเดือนละ 800 ห้องน้ำรวม

จากเคยกินสเต็ก ชาบู กับเพื่อนๆ ทุกวีค

เขาต้มไข่ 1 ฟอง ละลายพริกน้ำปลาไปกินที่ทำงาน

กลับมาบ้านลูกชิ้น 1 ไม้กินกับข้าว 5 บาท หยอดน้ำตู้กิน

เพื่อนในที่ทำงานตีตัวออกห่าง

เพราะเขาไม่กินใช้หรูหราเหมือนเมื่อก่อน

รถก็ไม่มี เนื้อย่างก็ไม่ไปกินกับเพื่อนเหมือนทุกเดือน

ห่อข้าวมาทำงาน กินน้ำฟรีข้องห้าง

เย็นกลับบ้าน กินลูกชิ้นบ้าง มาม่าบ้าง ไข่เจียวบ้าง

ทำแบบนี้เป็นปีๆ

มีเงินเก็บ 3-4 หมื่นจากที่เป็นหนี้

เดือนไหนได้ค่าคอมมากก็ได้เก็บมาก

เขายังคงใช้ชีวิตเหมือนเดิม

ห่อข้าวมากิน พักห้องเช่าห้องน้ำรวม

จนวันนึงจุดเปลี่ยนชีวิตมาถึง

ตากผ้าห่มไว้เสือกโดน…..ขโมย!

เขาไม่ต้องการซื้อผ้าห่มชุดเครื่องนอนด้วยเงินสด

เพราะที่ผ่านมารู้คุณค่าของเงินมากขึ้น

เขาตัดสินใจผ่อนผ้าห่มกับแขกแถวบ้านเช่า

ในร้านขาย 1,500

แขกให้ผ่อน สบายๆ 350 บาท 10 เดือน

ตกวันละสิบกว่าบาทเอง

เขาตัดสินใจผ่อน…คืนแรกที่นอนใต้ผ้าห่มใหม่

ใจก็ครุ่นคิด ดอกเท่าตัวเลยนี่หว่า!

นอนไปนอนมาเขาคิดได้….

ขายผ้าห่มเงินผ่อนให้เพื่อนร่วมงาน

พนักงานห้างชอบผ่อนของ!!

เขาไปร้านขายชุดเครื่องนอน

ไปขอแค็ตตาล็อกชุดเครื่องนอนแบบต่างๆ มา

เอาไปขายให้เพื่อนในแผนก สั่งวันเดียวได้เป็นสิบๆ ชุด!

ดาวน์ 500 ผ่อน 300 บาท 10 เดือน ต้นทุน 1500(ราคาหลายปีก่อน)

ได้กำไรเท่าบังเลย เท่าตัว!!

ปากต่อปากไปถึงแผนกอื่นชวนกันมาผ่อน

ไม่กี่เดือนเขาขายชุดเครื่องนอนในเพื่อนพนักงานนับร้อยชุด!

มีโกงบ้าง หนีบ้าง แต่คำนวณแล้วก็ยังกำไรงาม

จากเป็นหนี้ ตอนนี้มีเงินให้ผู้จัดการกู้!!!

เขามีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นโดยไร้บัตร

ได้ชีวิตสะดวกสบายกลับคืนมา ได้ดาวน์บ้านได้ผ่อนรถคันใหม่

และเขายังคงทำตัวเรียบง่ายในการใช้จ่ายเหมือนเดิม

ห่อข้าวมากิน(อาหารดีกว่าเดิม)

กินน้ำฟรีของห้าง ตั้งใจทำงานที่รับผิดชอบ

จนในที่สุดเขารับผ่อนสินค้า

หลายรายการให้กับเพื่อนพนักงาน

จากเป็นหนี้ กลายเป็นมีเก็บเป็นแสน!

บทความนี้ เขียนให้เห็นถึงการปรับตัว

การประหยัด และใช้ชีวิตอย่างพอดี

เพื่อแก้ไขสถานการณ์ของชีวิต

เป็นเรื่องเอาเปรียบคนอื่นเลย เพราะกู้เงินแบงค์ซื้อบ้าน

ดอกก็เท่าตัวเหมือนกัน

ให้มองวิธีการ วิธีเอาตัวรอด ดูไหวพริบของเขา

การลดอัตรา ลดหน้าตาทางสังคมลง

มันทำให้ชีวิตแย่ๆ ดีขึ้นได้

ตอนเขาห่อไข่ต้มมากินกับข้าวในห้าง

เพื่อนถึงกับลุกหนี นินทาเขาทั้งห้าง แล้วเป็นไง?

คนที่นินทาเขาต้องมากู้เงินเขาใช้

อย่างที่คนดังๆ พูดไว้มันจริง

วันนี้หากคุณซื้อแต่ของที่อยากได้เพื่อเอามาอวดคนอื่น

วันนึง คุณจะต้องขายของที่จำเป็นเพื่อรักษาฐานะเอาไว้

ลองดูที่ตัวเราครับ

อะไรบ้างในชีวิตที่ไม่จำเป็น ตัดออก

เคยอยู่ห้องเดือนละ 3500

ลองไปดูห้องพัดลมแถวๆ ที่ทำงานเดือนละ 2000 ดู

ยุคนี้ไม่ประหยัด….ตาย

บ้าวัตถุตามเพื่อนเห็นทีจะ….หายนะ!

กินน้อยลง จ่ายน้อยลง

แต่รายได้มากขึ้น ไม่กี่ปีก็ลืมตาอ้าปากได้ทุกอาชีพ

ขอบพระคุณแหล่งที่มา

  • คุณ สิริทัศน์