“คำพูดต้องห้าม” ถ้าไม่อยากให้ชีวิตตกอับ

สำหรับวันนี้ทางเราก็มีสาระที่ดีมาฝากกันอีกเหมือนเดิม เคยเป็นไหม เวลาที่เพื่อนชวนไปเที่ยวหรือทานอาหาร เราชอบพูดอยู่บ่อยครั้งว่า ไม่มีเงิน แต่หลายคนหารู้ไม่ว่าการพูดคำนี้มันไม่ดีเลย เพราะมันจะส่งผลให้กับชีวิตเราตกอับ เหมือนกับคำพูดที่เราว่าไว้ ถ้าอยากให้ชีวิตเป็นอย่างไรก็ควรจะพูดอย่างนั้น ส่วนจะเป็นอย่างไรบ้างนั้น ตามมาชมเนื้อหาเพิ่มเติมพร้อมๆกันเลยค่ะ

จำไว้นะ! อย่าพูดว่า “ไม่มีเงิน” โดยหลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน
วิชาการต่างๆ ในปัจจุบันนี้ที่ศึกษาแล้ว ไม่ค่อยได้ผลเพราะคนขาดความอดทนมาก ต้องบอกว่าขาดมากจริงๆ โยมบางคนมาถามเรื่องกสิณบอกว่าผมจับภาพกสิณ ภาวนาแล้วแต่ทำไมยังไม่เกิดผล

อาตมาถามว่าคุณภาวนากี่ครั้ง ถึงร้อยครั้งหรือยัง? เขาก็อึ้งไปสักพักหนึ่ง แสดงว่าร้อยครั้งยังไม่ถึงเลยจึงบอกเขาไปว่า คุณไปเปิดหนังสือคู่มือปฏิบัติกรรมฐาน หรือหนังสือกรรมฐาน ๔๐ ของหลวงพ่อวัดท่าซุงดู ในเรื่องการฝึกกสิณ ท่านบอกว่า ให้ลืมตามองภาพ หลับตาลงนึกถึงภาพนั้น พร้อมกับกำหนดลมหายใจเข้าออกและคำภาวนา พอภาพเลือนไปให้ลืมตาดูใหม่ หลับตาลงกำหนดนึกถึงภาพนั้น พร้อมกับลมหายใจและคำภาวนา ทำอย่างนั้นเป็นหมื่นเป็นแสนครั้ง จนกว่าภาพนั้นจะเริ่มติดตาติดใจ

ทีนี้เขาเองหลักร้อยยังไม่ผ่านเลย แล้วจะไปกล่าวถึงเป็นหมื่นเป็นแสนได้อย่างไร เมื่อตอนบ่ายมีโยมมาปรารภว่า ตอนนี้การทำมาหากินลำบากมาก จะแก้ไขด้วยวิธีไหน? อาตมาก็แจ้งแก่โยมไปว่า ให้ใช้คาถาเงินล้านเป็นกรรมฐาน เขาบอกว่าภาวนาเป็นประจำเช้าเย็นอยู่แล้ว

อาตมาถามว่ากี่จบ? เขาบอกว่าเช้า ๙ จบ เย็น ๙ จบ อาตมาจึงบอกว่า “โยมรู้ไหมว่า ถ้าอาตมาแนะนำให้ภาวนา ต่ำสุดจะให้เริ่มที่ ๑๐๘ จบ”

ยังดีกว่าโยมอีกคน เขาบอกว่าท่องคาถาเงินล้านมา ๒ เดือนยังไม่เห็นผล เราก็แปลกใจ เพราะถ้า ๒ เดือน ทำจริงๆ ต้องเห็นผล ถามว่าโยมภาวนาครั้งละกี่จบ ? #เขาว่าครั้งละ ๑ จบ แหม..น่าได้ผลจริงๆ เลย..!

“การที่ให้เราภาวนามาก ๆ ก็เพราะว่าระยะเวลาที่ยาวนาน จะทำให้สมาธิของเราตั้งมั่นมากขึ้น”

ดังนั้นโยมที่บอกว่า… ลำบากในเรื่องทำมาหากิน พูดว่าไม่เงิน ถ้าตั้งใจภาวนาคาถาเงินล้านจริง ๆ ไม่เกิน ๒ เดือนจะมีความคล่องตัวแน่นอน ที่กล้ายืนยันเพราะทำเห็นผลด้วยตนเองมาแล้ว ทุกวันนี้ ที่บรรดาเพื่อนพระเห็นว่าอาจารย์เล็กรวย ก็คืออานิสงส์ของคาถาเงินล้านนั่นเอง

เมื่อเดือนก่อนตอนประชุมพระนวกะ ท่านเจ้าคณะตำบลชะแล เขต ๑ ก่อนหน้านี้เคยเป็นคู่เขยกัน คือท่านเป็นเจ้าคณะตำบลชะแลเขต ๑ อาตมาเป็นเจ้าคณะตำบลชะแลเขต ๒ เขาก็เลยเรียกกันว่าเป็นคู่เขยกัน

พอท่านมาถึงก็บอกว่า “อาจารย์..ผมติดหนี้ค่าวัสดุก่อสร้างอยู่ ขอยืมสักสี่แสนสิ” อาตมาก็หัวเราะบอกว่า “รู้ไหม..ที่เห็นว่าผมรวยเป็นเพราะผมใช้เงินไม่คิด มีเท่าไรผมก็ทุ่มออกเพื่องานส่วนรวมหมด คนที่ทำได้ทุกงาน ทำได้ทุกครั้ง คนเขาจะเห็นว่ารวย แต่จริง ๆ แล้ว ผมไม่มีเงินเก็บ ส่วนคนไหนก็ตามที่ไม่ยอมทำอะไรเลย ส่วนใหญ่เขามีเงินเก็บท่วมหัวทั้งนั้น ลองไปขอยืมเขาดูก็แล้วกัน..”

แปลกดี..บางวันอาตมาเหลือเงินติดตัวอยู่แค่ ๒๒ บาทเท่านั้น..!
หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ท่านแนะนำเอาไว้ ท่านบอกว่าจะมากจะน้อย ขอให้มีเงินติดตัวไว้ บาทหนึ่งสลึงหนึ่งก็ยังดี ถ้าใช้คาถาเงินล้านของท่าน “อย่าพูดคำว่าไม่มีเงิน” อย่างไรก็ต้องมี

“ถ้าหากว่าโยมมีเหรียญที่ไม่ได้ใช้ ก็ใส่ๆ กระเป๋าไว้บ้าง อย่างไรก็ให้มีเงินติดกระเป๋าอยู่ เป็นการแก้เคล็ด”

ในสมัยของหลวงปู่ปาน มีลูกศิษย์ที่ทำคาถาพระปัจเจกโพธิโปรดสัตว์ แล้วประสบผลสำเร็จเป็นตัวอย่างให้คนอื่นได้ พอมาถึงรุ่นหลวงพ่อ หลวงพ่อท่านไม่ได้ยกตัวอย่าง

แต่อาตมาก็ทำให้เห็นแล้วว่า ถ้าทำจริงก็มีผลจริงๆ
เหลือแต่พวกเราทั้งหลายว่าจะมีใครทุ่มเทจริงจัง เมื่อถึงเวลาแล้วจะได้ประกาศอย่างเต็มปากเต็มคำว่า เราปฏิบัติกรรมฐานแล้วได้ผล โดยเฉพาะในส่วนของคาถาเงินล้าน ที่มีอานิสงส์พิเศษก็คือ ความคล่องตัวในความเป็นอยู่

อานิสงส์ของการภาวนานั้น เราได้พุทธานุสติเต็มๆ อยู่แล้ว เพราะเป็นคาถาที่พระพุทธเจ้าท่านมอบให้มา ถ้าเราต้องการไปนิพพานก็ภาวนาคาถาเงินล้าน แล้วเอาใจเกาะพระนิพพานไว้ ในส่วนของการดำรงชีวิตอยู่ เราต้องการผลพิเศษของคาถา

ไปทำจริงๆสักที เราต้องกล้าคิด กล้าทำ พูดง่ายๆ ก็คือ ถ้าไม่มีใครกล้าเราก็ว่าเสียเอง ทำตัวเองให้เป็นบุคคลในประวัติศาสตร์เสียเลย ถ้าเราทำได้ผล ถึงเวลาไปสอนคนอื่น ก็จะสอนได้อย่างเต็มปากเต็มคำอีกด้วย
สนทนากับพระอาจารย์เล็ก สุธมฺมปญฺโญ เก็บตกบ้านอนุสาวรีย์ ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๓