ซึ่งในปัจจุบันนี้ไม่ว่าจะเป็นชาวมนุษย์ออฟฟิศหรือใครหลายๆคนก็จะมีอาการปวดเมื่อยตามตัวกันอยู่ใช่ไหมล่ะคะซึ่งแน่นอนว่าหลายคนนั้นก็จะหาวิธีการนวดต่างๆเพื่อทำให้ร่างกายของตัวเองได้ผ่อนคลายขึ้นแต่บอกเลยว่าวิธีการกดจุดนั้นก็สามารถทำได้ด้วยเช่นกันค่ะ

ซึ่งการกดจุดนั้นก็ถือเป็นศาสตร์ทางแพทย์แผนจีนโบราณและสามารถรักษาโรคได้โดยคาดว่าในร่างกายของเรานั้นมีจุดลมปราณเป็นจำนวนมากและสามารถเชื่อมต่อกันไปทั่วร่างกายและมีสะท้อนผลสะท้อนถึงพลังในร่างกายเส้นประสาทและการไหลเวียนเลือดอีกครั้งหนึ่งในเรื่องของการทำงานอวัยวะและต่อมน้ำเหลืองต่างๆของร่างกายของเราซึ่งเมื่อเราได้ทำการกดจุดแล้วบริเวณที่เราต้องการสะท้อนไปยังอวัยวะต่างๆที่เราต้องการฉันจะเป็นการทำให้เกิดการกระตุ้นอวัยวะนั้นๆทำงานและกลับคืนสู่สภาพที่สมบูรณ์ได้ในวันนี้เราก็จะมาบอกกันว่าเราต้องกดจุดตรงไหนอย่างไรถึงจะดีต่อสุขภาพร่างกายของเรากันค่ะ

1. The Three Miles Point

โดยจุดนี้จะอยู่บริเวณด้านล่างของกระดูกหัวเข่าประมาณ 3.8 cm หรือตามบริเวณคาบนั่นเองโดยรอให้เอานิ้วกดเข้าไปบริเวณนั้นซึ่งจะสามารถช่วยในเรื่องของการทำงานระบบย่อยอาหารได้ซึ่งหากใครมีอาการปวดท้องหรือคลื่นไส้วิงเวียนศีรษะก็ลองกดจุดสีกันนะคะเพราะสามารถทำได้ด้วยเช่นกันวิธีการดังกล่าวสามารถทำได้ง่ายๆเพียงแค่นั้นของเราเขาเอาไว้แล้วกดไปยังจุดด้วยน้ำหนักที่พอมีประมาณสัก 1 นาที

2. ตาที่สามตา

โดยจุดนี้จะอยู่ที่บริเวณกานต์คิ้วของเรานั่นเองซึ่งสามารถช่วยในเรื่องของอาการปวดหัวความกดดันความเมื่อยล้าและความเครียดของเราได้วิธีการนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆเพียงแค่กดลงไปเบาๆแล้วค้างไว้ประมาณสัก 1 นาที

3. The Pericardium Point

โดยจุดนี้จะอยู่บริเวณที่ไปแข่งต่างจากข้อมือขึ้นมาประมาณ 3 นิ้วมือได้อยู่กึ่งกลางระหว่างเส้นเอ็นทั้งสองซึ่งการกดจุดนี้นานจะช่วยให้ปวดปล่อยอาการปวดหัวคลื่นไส้อาเจียนและอาการเมารถได้วิธีการนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆโดยการกดดันลดลงไปด้วยความแรงขนาดกลางกลางประมาณสัก 4-5 วินาทีเท่านั้น

4.The Tong Zi Liao Point

ซึ่งจุดนี้จะอยู่บริเวณมุมผ่านตาใกล้ๆกับขมับด้วยในจุดนี้นั้นจะสามารถช่วยในเรื่องของอาการความเหนื่อยล้าของดวงตาและอาการไมเกรนได้เป็นอย่างดีวิธีการนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆโดยการถูถูถูนวดบริเวณนั้นด้วยปลายนิ้วของคุณจนกว่าอาการนั้นจะรู้สึกผ่อนคลายลง

5. หลังเท้า

ซึ่งจุดนี้น่าจะอยู่บริเวณกึ่งกลางของนิ้วโป้งและนิ้วชี้และสูงขึ้นมาประมาณ 3.8 cm ซึ่งสามารถช่วยในการอาการปวดหัวและความอ่อนล้าของดวงตาอีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการปวดเท้าได้อีกด้วยและยังทำให้เรานั้นมีสมาธิได้มากวิธีนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆโดยกดจุดกางไว้บริเวณนั้ 1 นาที

6.กลางหน้าอก

โดยจุดนี้เป็นจุดที่หาได้ง่ายมากเพราะมันอยู่กลุ่มสารวัตรหน้าอกของเราพอดีซึ่งจุดนี้จะทำให้เรานั้นกดปลดปล่อยความเครียดความกดดันความวิตกกังวลและความโทรต่างๆอีกทั้งยังสามารถช่วยปลดปล่อยความรู้สึกด้านลบและทำให้ใจของเรานั้นเย็นลงได้วิธีทำนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆโดยการค่อยๆกดไลค์กดค้างไว้ประมาณ 1 นาที

7.มือ

โดยจุดนี้จะอยู่กึ่งกลางระหว่างหัวแม่โป้งเกษตรหรือดูได้ตามภาพซึ่งจะมีความสามารถในการช่วยแก้อาการเจ็บคอเจ็บไหล่อาการปวดหัวอาการปวดฟันวิธีนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆในการกดค้างไว้หรือนวดเบาเบาประมาณสัก 10 นาที

8.ฝ่าเท้า

โดยชุดนี้ถือเป็นจุดที่อยู่เกือบกึ่งกลางของฝ่าเท้าเราซึ่งจะอยู่ตรงระหว่างนิ้วชี้และนิ้วกลางหรือตามภาพที่เราวางไว้โดยจะช่วยในเรื่องของอาการปวดหัววิงเวียนศีรษะอาการเป็นลมได้วิธีการนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆโดยการกดจุดลงไปโดยใช้ปลายนิ้วของตัวเองนะกดค้างทิ้งไว้ประมาณสัก 1 นาที

9. ท้ายทอย

โดยจุดนี้จะอยู่บริเวณด้านข้างลำคอหรือประมาณฐานศีรษะของเราจะช่วยในเรื่องของอาการปวดไมเกรนหน้ามืดวิงเวียนอาการปวดหัวได้วิธีการก็ง่ายๆเพียงกดค้างไว้ประมาณสัก 1 นาที

10. หลังของศีรษะ

จุดนี้จะอยู่ระหว่างช่องกลวงกระโหลกซึ่งสามารถช่วยแก้อาการปวดหัวเจ็บคอเลือดกำเดาๆหลายๆวิธีทำก็เพียงแค่ใช้ปลายนิ้วกดค้างไว้สัก 2 นาที

11. ด้านหลัง

โดยจุดดีเจอยู่บริเวณรอบเอวของเราหรือดูได้จากในภาพซึ่งจะอยู่ประมาณกระดูกสันหลังห่างออกมาประมาณสัก 4 นิ้วทั้งซ้ายและขวาจะช่วยในเรื่องของอาการเจ็บหน้าท้องอาหารไม่ย่อยทำได้ง่ายๆเพียงแค่จุดกดทีละข้างข้างละ 1 นาที

12. หลังปลายแขน

ซึ่งจะอยู่ตรงหลังแขนห่างประมาณ 7.6 เซ้น จากข้อมือของเราซึ่งจะช่วยในเรื่องของอาการท้องอืดได้โดยวิธีการนั้นก็สามารถทำได้ง่ายๆโดยการกดไปยังที่จุดนั้นซ้ำไปซ้ำมาโดยกดข้างละ 1 นาทีก็สามารถช่วยอาการความตายได้เป็นอย่างดี

13.ข้อเท้า

อยู่ระหว่างตาตุ่มและเอ็นร้อยหวายจะสามารถช่วยในเรื่องของอาการเจ็บหลังเจ็บคอเจ็บรายได้วิธีการดังกล่าวสามารถทำได้ง่ายๆเพียงแค่กดไปบริเวณที่บอกประมาณสัก 1 นาที

14.ข้อศอก

จะอยู่บริเวณข้อพับของข้อสอบซึ่งจุดนี้จะช่วยในเรื่องของการบรรเทาอาการน้ำมูกไหลเจ็บคอเสริมสร้างการทำงานของระบบคุ้มกันและอาการไข้หวัดวิธีการนั้นก็ง่ายๆเพียงแค่เรานั้นน.ส. เข้ามาจากต่างก็กดจุดลงไปด้วยนิ้วโป้งหรือจะนวดเอาไว้ก็ได้แล้วก็ค้างไว้สัก 1 นาทีทำสับไปสับมาระหว่างสองแขน

และนี่ก็คือจุดการกดจุดที่เรานำมาเสนอกันในวันนี้ซึ่งบอกเลยว่าทุกคนนั้นสามารถเอาไปทำในชีวิตประจำวันได้ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการเสริมสร้างคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นและสามารถนำไปใช้กับคนรอบตัวได้อีกด้วยอีกทั้งยังบรรเทาอาการแก้ปวดทั้งหลายได้เป็นอย่างดีซึ่งจะทำให้เรานั้นห่างไกลจากยาปฏิชีวนะได้มากที่สุดและยังช่วยอาการแก้ปวดต่างๆได้อีกด้วย

ซึ่งแน่นอนว่าถ้าหากอาการปวดปวดมากเกินไปจนใช้วิธีเหล่านี้ไม่หายนั้นก็ลองไปปรึกษาหาแพทย์ดูค่ะเพราะว่าคุณอาจจะเป็นอะไรมากกว่าที่เรานั้นไม่คาดฝันก็เป็นได้ฉะนั้นทางที่ดีการหาแพทย์และรักษาด้วยวิธีที่ถูกภายในก็ถือเป็นวิธีที่สมควรแต่ถ้าหากใครปวดเล็กๆน้อยๆก็ลองทำดูเพราะจะทำให้เรานั้นผ่อนคลายได้ด้วยค่ะแล้วถ้าหากบทความนี้สามารถสร้างประโยชน์ให้กับใครได้ก็อย่าลืมกดไลค์กดแชร์แล้วเอาไปฝากคนที่ห่วงใยกันด้วยนะคะ