สาวแชร์! ขั้นตอนขอรับยารักษามะเร็งฟรี "หมอแสง" ใครอยากจะไปรับยาควรอ่าน!!
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อคุณ Kaolad KL ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับการไปรับยารักษาโรคมะเร็งของหมอแสง ซึ่งเธอได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์การไปรับยาของเธอ มีใจความว่า
เมื่อพี่ชายเป็นมะเร็ง เราและที่บ้านคุยกันว่าจะลองไปขอรับยาที่บ้านหมอแสง(ปราจีนบุรี) ความตั้งใจแรกคือแม่บอกจะมารับยาให้พี่ชายเอง แต่เท่าที่เราหาข้อมูลมา การขอรับยาใช้เวลานาน อีกทั้งพี่เรายังเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ฉะนั้นจะต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าปกติมาก
การขอรับยาของหมอแสงจะแบ่งกลุ่มของผู้รับยาตามลำดับดังนี้
1. ผู้ป่วยเก่า ผู้ป่วยมารับยาด้วยตัวเอง ซึ่งจะได้รับยาเป็นลำดับแรก
2. ผู้ป่วยเก่า ญาติมารับแทนจะรับยาเป็นลำดับที่สอง
3. ผู้ป่วยใหม่ ผู้ป่วยมารับยาด้วยตัวเองจะรับยาเป็นลำดับที่สาม
4. ผู้ป่วยใหม่ ญาติรับแทนจะรับยาเป็นลำดับสุดท้าย
ซึ่งพี่ชายเราจะอยู่ในกลุ่มสุดท้าย เพราะอยู่ต่างจังหวัด เราจึงอาสาเป็นคนไปรับยาเองในครั้งนี้ อีกอย่างเพราะแม่เราอายุเยอะแล้ว คนแก่คงไปรอนานๆ แบบนี้ไม่ไหว สงสารแม่กลัวเขาจะเหนื่อย เราจึงเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการขอรับยาหมอแสง
เอกสารที่ใช้ในการขอรับยา สำหรับรายใหม่
– กรณีผู้ป่วยรับยาเอง
1. บัตรประชาชน ตัวจริง ของผู้ป่วย
2. ทะเบียนบ้าน ตัวจริง
3. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล ตัวจริง ต้องระบุว่าเป็นโรคมะเร็งเท่านั้น จึงจะขอรับยาได้
4. ใบแจ้งความตัวจริง
– กรณีญาติผู้ป่วยรับยาแทน
1. บัตรประชาชน ตัวจริง ของผู้ป่วย
2. ทะเบียนบ้าน ตัวจริง
3. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล ตัวจริง ต้องระบุว่าเป็นโรคมะเร็งเท่านั้น จึงจะขอรับยาได้
4. ใบแจ้งความตัวจริง
5. บัตรประชาชน ตัวจริง ของผู้รับแทน
6. ทะเบียนบ้าน ตัวจริง ของผู้รับแทน
7. ทะเบียนสมรส สูจิบัตร ใบสำคัญอื่นๆ แสดงความสัมพันธ์กับผู้ป่วย
**ในกรณีนี้ผู้ที่จะขอรับยาจะต้องเป็น พ่อ แม่ พี่-น้อง สามี ภรรยา บุตร ของผู้ป่วยเท่านั้น ข้อนี้สำคัญมาก!!!! พูดง่ายๆว่าต้องสืบสายเลือดโดยตรงเท่านั้น!!!!!
หมอแสงจะมีการแจกยาแค่เดือนละครั้งเท่านั้น จะแจกอาทิตย์แรกของเดือน ในเดือนมกราคม 61 นี้ตรงกับวันที่ 6-7 การเดินทางของเราจึงได้เริ่มต้นขึ้น เราเดินทางโดยใช้รถไฟสะดวก ประหยัด และปลอดภัย เราเดินทางไปถึงสถานีปราจีนบุรีประมาณ 9 โมงกว่า นั่งรถตุ๊กๆ ไปสถานีตำรวจเพื่อขอลงบันทึกประจำวัน
ยืนรอคิวตั้งแต่ 9.30 น.จนถึง 13.30 น. กว่าจะเสร็จ ยืนรอ 4 ชม. เพราะคนเยอะมากมาจากทั่วทุกภาค ฉะนั้นขอแนะนำว่าควรมาขอใบแจ้งความล่วงหน้าก่อนวันแจกยาสัก 1 อาทิตย์
ระหว่างนี้เราก้อไปหาข้าวกิน และก้อเดินทางไปที่วัดที่อยู่ใกล้ๆ บ้านหมอแสงเพื่อพักผ่อน ก่อนจะไปเข้าคิวขอรับยาในช่วงดึก
ซึ่งบริเวณนี้จะมีวัดที่รองรับผู้คนที่มาจากต่างจังหวัดหลายวัด จะอยู่รอบๆ บ้านหมอแสง เพื่อให้ประชาชนเอารถมาจอดไว้ที่วัดได้ แล้วค่อยนั่งมอไซด์เข้าไปรอรับยาที่บ้านหมอแสง เนื่องจากจะมีการปิดถนนให้เข้าได้เฉพาะรถมอไซด์บริเวณใกล้บ้านหมอแสง
คิวเวลารับยาของวันที่ 6-7 มกรา จะเป็นดังนี้
1. 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม >> ผู้ป่วยเก่า รับยาเอง
2. 3 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน >> ผู้ป่วยเก่า ญาติรับแทน
3. เที่ยงคืน ถึง ตี 3 >> ผู้ป่วยใหม่ รับยาเอง
4. ตี 3 ถึง 6 โมงเช้า >> ผู้ป่วยใหม่ รับยาแทน
คิวรับยาเราตอนตี 3 เพื่อความไม่ประมาทเราไปเข้าคิวก่อนเวลา เพราะเห็นว่ามีคนมาขอรับยาเยอะมาก เราไปยืนเข้าคิวตอน 5 ทุ่ม ท้ายคิวตอนเราไปถึงอยู่ห่างจากบ้านหมอแสงเกือบ 3 กิโล บอกเลยช็อคมากกก ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้
ยืนรอคิวรับยาเป็นอะไรที่ยาวนานมาก สว่างคาตากันเลยทีเดียว ในระหว่างนี้จะมีจิตอาสาช่วยจัดแถว ประกาศแจ้งแนะนำการรับยาตลอดเวลา ว่าจะต้องเตรียมตัวยังงัย ต้องทำอะไรบ้าง กว่าการรับยาจะแล้วเสร็จ จนถึงวินาทีที่ถึงขั้นตอนการตรวจเอกสารรอบสุดท้ายก่อนรับยาจากมือของหมอแสง
บอกตรงๆ ว่าดีใจมาก แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลย เรามองดูนาฬิกา ว่าเรายืนรอมานานแค่ไหน มันใกล้จะสำเร็จแล้ว ตอนนี้เป็นเวลา 8.10 น. เป็นเวลากว่า 9 ชม. ที่ยืนรอคิวทั้งปวดทั้งเมื่อยขาทั้งเพลีย
เพราะระหว่างรอทั้งฝนตก ทั้งร้อนอบอ้าว สลับกันไป แต่พอได้รับยาจากมือหมอแสงเท่านั้นแหละ ความเหนื่อย ความเมื่อยล้าหายไปไหนหมดไม่รู้ เรายกมือไหว้หมอแสงแล้วกล่าวขอบคุณ เดินออกมาน้ำตาไหล คนแรกที่เราโทรหาคือแม่ เพื่อจะบอกว่าเราได้ยามาแล้วนะ เป็นอะไรที่ตื่นเต้น ตื้นตันมาก บอกไม่ถูก และไม่ว่ายาจะได้ผลหรือไม่ อันนี้ก้อต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์
แต่ก้อต้องขอขอบคุณหมอแสงและจิตอาสาทุกท่านเป็นอย่างมากที่ทำให้ผู้ป่วยและญาติทุกคนกลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณตำรวจสน.ปราจีนที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกคน
สิ่งของที่ควรเตรียมไปด้วยก่อนไปรับยา
1. ผ้ายาง ผืนไม่ต้องใหญ่มาก ใช้ได้ทั้งรองนั่ง รองนอน แถมยังกันฝนได้อีกด้วย
2. พัดลมมือถือหรือพัด เพราะอากาศร้อนมาก
3. หมวก ไว้ใส่กันแดด กันฝนปรอยๆ
4. เก้าอี้พับตัวเล็กๆ อันนี้สำคัญมาก ไม่งั้นยืนรอจนขาแข็งแน่ๆ
5. หาคนไปเป็นเพื่อนสักคน เวลายืนรอคิวจะได้สลับกันไปพักขาได้
6. น้ำ ขนม ลูกอม ไว้กินรองท้องเวลาหิว
7. ยาทากันยุง เพราะยิ่งดึกยุงยิ่งเยอะมากค่ะ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนโชคดี สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยนะคะ
**ปล. เรื่องค่าโดยสาร
– จากสถานีรถไฟไปสถานีตำรวจ ค่ารถตุ๊กๆ 60 บาท
– รถสองแถวจาก สน.ไปบ้านหมอแสง 25 บาท ถ้ารถตุ๊กๆ 150 บาท
– จากบ้านหมอแสงไปสถานีรถไฟ ค่ารถตุ๊กๆ 200 บาท
**โพสต์นี้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากไปรับยานะคะ สงสัยอะไรตรงไหนสอบถามได้ค่ะ
**หากมีข้อมูลใดผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนไปต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ
**ขอบคุณคุณแฟนด้วยนะที่ไปเป็นเพื่อน จะสุขจะทุกข์ก้ออยู่เคียงข้างกันตลอดเวลา
**ขอบคุณพี่น้อง ที่คอยให้คำแนะนำมาตลอด ขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ
ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งชื่อคุณ Kaolad KL ได้ออกมาให้ความรู้เกี่ยวกับการไปรับยารักษาโรคมะเร็งของหมอแสง ซึ่งเธอได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์การไปรับยาของเธอ มีใจความว่า
เมื่อพี่ชายเป็นมะเร็ง เราและที่บ้านคุยกันว่าจะลองไปขอรับยาที่บ้านหมอแสง(ปราจีนบุรี) ความตั้งใจแรกคือแม่บอกจะมารับยาให้พี่ชายเอง แต่เท่าที่เราหาข้อมูลมา การขอรับยาใช้เวลานาน อีกทั้งพี่เรายังเป็นผู้ป่วยรายใหม่ ฉะนั้นจะต้องใช้เวลานานขึ้นกว่าปกติมาก
การขอรับยาของหมอแสงจะแบ่งกลุ่มของผู้รับยาตามลำดับดังนี้
1. ผู้ป่วยเก่า ผู้ป่วยมารับยาด้วยตัวเอง ซึ่งจะได้รับยาเป็นลำดับแรก
2. ผู้ป่วยเก่า ญาติมารับแทนจะรับยาเป็นลำดับที่สอง
3. ผู้ป่วยใหม่ ผู้ป่วยมารับยาด้วยตัวเองจะรับยาเป็นลำดับที่สาม
4. ผู้ป่วยใหม่ ญาติรับแทนจะรับยาเป็นลำดับสุดท้าย
ซึ่งพี่ชายเราจะอยู่ในกลุ่มสุดท้าย เพราะอยู่ต่างจังหวัด เราจึงอาสาเป็นคนไปรับยาเองในครั้งนี้ อีกอย่างเพราะแม่เราอายุเยอะแล้ว คนแก่คงไปรอนานๆ แบบนี้ไม่ไหว สงสารแม่กลัวเขาจะเหนื่อย เราจึงเริ่มหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าจะต้องใช้เอกสารอะไรบ้างในการขอรับยาหมอแสง
เอกสารที่ใช้ในการขอรับยา สำหรับรายใหม่
– กรณีผู้ป่วยรับยาเอง
1. บัตรประชาชน ตัวจริง ของผู้ป่วย
2. ทะเบียนบ้าน ตัวจริง
3. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล ตัวจริง ต้องระบุว่าเป็นโรคมะเร็งเท่านั้น จึงจะขอรับยาได้
4. ใบแจ้งความตัวจริง
– กรณีญาติผู้ป่วยรับยาแทน
1. บัตรประชาชน ตัวจริง ของผู้ป่วย
2. ทะเบียนบ้าน ตัวจริง
3. ใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาล ตัวจริง ต้องระบุว่าเป็นโรคมะเร็งเท่านั้น จึงจะขอรับยาได้
4. ใบแจ้งความตัวจริง
5. บัตรประชาชน ตัวจริง ของผู้รับแทน
6. ทะเบียนบ้าน ตัวจริง ของผู้รับแทน
7. ทะเบียนสมรส สูจิบัตร ใบสำคัญอื่นๆ แสดงความสัมพันธ์กับผู้ป่วย
**ในกรณีนี้ผู้ที่จะขอรับยาจะต้องเป็น พ่อ แม่ พี่-น้อง สามี ภรรยา บุตร ของผู้ป่วยเท่านั้น ข้อนี้สำคัญมาก!!!! พูดง่ายๆว่าต้องสืบสายเลือดโดยตรงเท่านั้น!!!!!
หมอแสงจะมีการแจกยาแค่เดือนละครั้งเท่านั้น จะแจกอาทิตย์แรกของเดือน ในเดือนมกราคม 61 นี้ตรงกับวันที่ 6-7 การเดินทางของเราจึงได้เริ่มต้นขึ้น เราเดินทางโดยใช้รถไฟสะดวก ประหยัด และปลอดภัย เราเดินทางไปถึงสถานีปราจีนบุรีประมาณ 9 โมงกว่า นั่งรถตุ๊กๆ ไปสถานีตำรวจเพื่อขอลงบันทึกประจำวัน
ยืนรอคิวตั้งแต่ 9.30 น.จนถึง 13.30 น. กว่าจะเสร็จ ยืนรอ 4 ชม. เพราะคนเยอะมากมาจากทั่วทุกภาค ฉะนั้นขอแนะนำว่าควรมาขอใบแจ้งความล่วงหน้าก่อนวันแจกยาสัก 1 อาทิตย์
ระหว่างนี้เราก้อไปหาข้าวกิน และก้อเดินทางไปที่วัดที่อยู่ใกล้ๆ บ้านหมอแสงเพื่อพักผ่อน ก่อนจะไปเข้าคิวขอรับยาในช่วงดึก
ซึ่งบริเวณนี้จะมีวัดที่รองรับผู้คนที่มาจากต่างจังหวัดหลายวัด จะอยู่รอบๆ บ้านหมอแสง เพื่อให้ประชาชนเอารถมาจอดไว้ที่วัดได้ แล้วค่อยนั่งมอไซด์เข้าไปรอรับยาที่บ้านหมอแสง เนื่องจากจะมีการปิดถนนให้เข้าได้เฉพาะรถมอไซด์บริเวณใกล้บ้านหมอแสง
คิวเวลารับยาของวันที่ 6-7 มกรา จะเป็นดังนี้
1. 6 โมงเย็น ถึง 3 ทุ่ม >> ผู้ป่วยเก่า รับยาเอง
2. 3 ทุ่ม ถึง เที่ยงคืน >> ผู้ป่วยเก่า ญาติรับแทน
3. เที่ยงคืน ถึง ตี 3 >> ผู้ป่วยใหม่ รับยาเอง
4. ตี 3 ถึง 6 โมงเช้า >> ผู้ป่วยใหม่ รับยาแทน
คิวรับยาเราตอนตี 3 เพื่อความไม่ประมาทเราไปเข้าคิวก่อนเวลา เพราะเห็นว่ามีคนมาขอรับยาเยอะมาก เราไปยืนเข้าคิวตอน 5 ทุ่ม ท้ายคิวตอนเราไปถึงอยู่ห่างจากบ้านหมอแสงเกือบ 3 กิโล บอกเลยช็อคมากกก ไม่คิดว่าคนจะเยอะขนาดนี้
ยืนรอคิวรับยาเป็นอะไรที่ยาวนานมาก สว่างคาตากันเลยทีเดียว ในระหว่างนี้จะมีจิตอาสาช่วยจัดแถว ประกาศแจ้งแนะนำการรับยาตลอดเวลา ว่าจะต้องเตรียมตัวยังงัย ต้องทำอะไรบ้าง กว่าการรับยาจะแล้วเสร็จ จนถึงวินาทีที่ถึงขั้นตอนการตรวจเอกสารรอบสุดท้ายก่อนรับยาจากมือของหมอแสง
บอกตรงๆ ว่าดีใจมาก แทบกลั้นน้ำตาไม่อยู่เลย เรามองดูนาฬิกา ว่าเรายืนรอมานานแค่ไหน มันใกล้จะสำเร็จแล้ว ตอนนี้เป็นเวลา 8.10 น. เป็นเวลากว่า 9 ชม. ที่ยืนรอคิวทั้งปวดทั้งเมื่อยขาทั้งเพลีย
เพราะระหว่างรอทั้งฝนตก ทั้งร้อนอบอ้าว สลับกันไป แต่พอได้รับยาจากมือหมอแสงเท่านั้นแหละ ความเหนื่อย ความเมื่อยล้าหายไปไหนหมดไม่รู้ เรายกมือไหว้หมอแสงแล้วกล่าวขอบคุณ เดินออกมาน้ำตาไหล คนแรกที่เราโทรหาคือแม่ เพื่อจะบอกว่าเราได้ยามาแล้วนะ เป็นอะไรที่ตื่นเต้น ตื้นตันมาก บอกไม่ถูก และไม่ว่ายาจะได้ผลหรือไม่ อันนี้ก้อต้องใช้ระยะเวลาในการพิสูจน์
แต่ก้อต้องขอขอบคุณหมอแสงและจิตอาสาทุกท่านเป็นอย่างมากที่ทำให้ผู้ป่วยและญาติทุกคนกลับมามีความหวังอีกครั้งหนึ่ง ขอบคุณตำรวจสน.ปราจีนที่คอยช่วยอำนวยความสะดวกให้ประชาชนทุกคน
สิ่งของที่ควรเตรียมไปด้วยก่อนไปรับยา
1. ผ้ายาง ผืนไม่ต้องใหญ่มาก ใช้ได้ทั้งรองนั่ง รองนอน แถมยังกันฝนได้อีกด้วย
2. พัดลมมือถือหรือพัด เพราะอากาศร้อนมาก
3. หมวก ไว้ใส่กันแดด กันฝนปรอยๆ
4. เก้าอี้พับตัวเล็กๆ อันนี้สำคัญมาก ไม่งั้นยืนรอจนขาแข็งแน่ๆ
5. หาคนไปเป็นเพื่อนสักคน เวลายืนรอคิวจะได้สลับกันไปพักขาได้
6. น้ำ ขนม ลูกอม ไว้กินรองท้องเวลาหิว
7. ยาทากันยุง เพราะยิ่งดึกยุงยิ่งเยอะมากค่ะ
สุดท้ายนี้ขอให้ทุกคนโชคดี สุขภาพแข็งแรง ปราศจากโรคภัยนะคะ
**ปล. เรื่องค่าโดยสาร
– จากสถานีรถไฟไปสถานีตำรวจ ค่ารถตุ๊กๆ 60 บาท
– รถสองแถวจาก สน.ไปบ้านหมอแสง 25 บาท ถ้ารถตุ๊กๆ 150 บาท
– จากบ้านหมอแสงไปสถานีรถไฟ ค่ารถตุ๊กๆ 200 บาท
**โพสต์นี้ไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนที่อยากไปรับยานะคะ สงสัยอะไรตรงไหนสอบถามได้ค่ะ
**หากมีข้อมูลใดผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อนไปต้องขออภัยมาณ.ที่นี้ด้วยค่ะ
**ขอบคุณคุณแฟนด้วยนะที่ไปเป็นเพื่อน จะสุขจะทุกข์ก้ออยู่เคียงข้างกันตลอดเวลา
**ขอบคุณพี่น้อง ที่คอยให้คำแนะนำมาตลอด ขอบคุณจากใจจริงๆ ค่ะ